กลุ่มแบงก์

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (25 มี.ค.) ว่าอุปสงค์สินเชื่อน่าผิดหวังจากการที่เศรษฐกิจฟื้นช้า สินเชื่อของกลุ่มธนาคารในเดือนก.พ.ขยายตัว 0.5% จากเดือนก่อนและ 3.8% จากปีก่อนจากการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจและ สินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของ SME ทั้งนี้ สินเชื่อของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB ,ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ขยายตัวมากกว่าธนาคารอื่น สำหรับสินเชื่อรถยนต์ยังคงหดตัวจากเดือนก่อน เนื่องจากอุปสงค์รถยนต์ยังอ่อนแอ โดยที่อุปสงค์เงินกู้ใหม่ไม่มากพอที่จะชดเชยระดับการชำระคืนเงินกู้เดิม โดยคาดว่าสินเชื่อรถยนต์จะค่อยๆ ฟื้นตัวในปี 2559 และจะฟื้นตัวเต็มที่ในปี 2560 เนื่องจากเชื่อว่าการชำระคืนหนี้ก้อนเดิมจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญในปี 2560 ทั้งนี้สินเชื่อรถยนต์มีระยะการชำระคืนหนี้อยู่ที่ 3 ปี ขณะที่เงินฝากโต 0.4% จากเดือนก่อนตามการเติบโตของสินเชื่อ ซึ่งคาดว่า NIM ของกลุ่มธนาคารจะถูกกดดันในครึ่งแรกของปีนี้เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยรอบล่าสุด และอุปสงค์สินเชื่อที่ยังอ่อนแอ โดยเฉพาะ BBL เนื่องจาก LDR ลดลงเหลือแค่ 82% ในเดือนก.พ. 2558 จาก 87% ในเดือนธ.ค. 2557 สำหรับธนาคารที่มีสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อรถยนต์สูงต่างก็ลดฐานเงินฝากลง 2-6% YTD ท่ามกลางอุปสงค์สินเชื่อที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตามคาดว่าอุปสงค์สินเชื่อจะฟื้นตัวในครึ่งหลังของปีนี้ โดยยังคงสมมติฐานอัตราการเติบโตของสินเชื่อธนาคารปีนี้เอาไว้ที่ 5.6% โดยจะได้แรงหนุนจากอุปสงค์สินเชื่อ SME และสินเชื่อบ้านซึ่งมียอด backlog ของโครงการคอนโดมิเนียมที่กำหนดโอนในปีนี้จำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ยังคงระมัดระวังกับประเด็นคุณภาพสินทรัพย์จากการที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัวช้า ขณะที่ยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้เลือกธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เป็นหุ้นเด่นจากแนวโน้มรายได้ค่าธรรมเนียมและ NIM ที่ดีขึ้น ในขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นด้วย