กาแฟเพรียวไฟเบอร์

นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า จากสถิติทะเบียนมะเร็งประเทศไทยที่เปิดเผยโดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ เมื่อ 17 มีนาคม 2565 รายงานว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงถือเป็น 1 ใน 5 ของมะเร็งที่พบมากในคนไทย มีอัตราการเกิดโรคสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ปัจจุบันมีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 16,000 คนต่อปี โดยเป็นเพศชายและหญิงราว 8,658 คน และ 7,281 คน รวมถึงมีผู้เสียชีวิตประมาณ 5,500 คนต่อปี สาเหตุของโรคส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่ทำให้เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรค โดยเฉพาะพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่มีกากใยไม่เพียงพอ ส่งผลให้ระบบขับถ่ายไม่ปกติ เกิดภาวะท้องผูก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ ทั้งนี้ เซ็ปเป้ให้ความสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์การดูแลสุขภาพแก่ผู้บริโภค เพื่อช่วยให้คุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้น จึงพัฒนาสินค้าภายใต้แบรนด์ “เพรียว” กาแฟควบคุมน้ำหนักอันดับหนึ่งจนได้เป็น “กาแฟเพรียวไฟเบอร์” เพื่อกลุ่มผู้บริโภคที่มีปัญหาด้านการขับถ่าย ท้องผูก ผู้ที่ต้องการปรับสมดุลลำไส้โดยเฉพาะ รวมทั้งผู้ที่ชื่นชอบรับประทานอาหารมื้อหนักๆ อย่างสายบุฟเฟ่ต์ ก็สามารถเลือก ‘เพรียวไฟเบอร์’ เป็นตัวช่วยได้ นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นของกาแฟเพรียวที่ช่วยควบคุมความหิว อิ่มท้องนาน น้ำตาล 0% รสชาติอร่อย กลมกล่อม หอมกลิ่นกาแฟ ยังเพิ่มความพิเศษโดยมีไฟเบอร์สูงถึง 5,000 มิลลิกรัมที่ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย และมีสารสกัดจากสมอไทย มีส่วนช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร จัดจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 40 บาท/แพ็ค 4 ซอง ผ่านร้านสะดวกซื้อทั้ง 7-11และ CJ More ทุกสาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ที่ Facebook: เพรียว คอฟฟี่ Line: @sappeonline และ Shopee: Sappe Official Store และแบบหัวแผง (24 ซอง) ราคาซองละ 10 บาท ที่ร้านค้าทั่วไป โดยในปีแรกตั้งเป้ายอดขายเพรียวไฟเบอร์ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท “กาแฟเพรียว เป็นสินค้าที่มีปริมาณการขายอันดับหนึ่งในตลาดกาแฟลดน้ำหนักในไทยมายาวนาน เป็นเครื่องยืนยันคุณภาพและความอร่อย ครั้งนี้เราอัพเกรดให้เป็น ‘เพรียวไฟเบอร์’ ซึ่งนับเป็นอีกสินค้าที่เราภูมิใจ เปิดตัวและวางจำหน่ายตั้งแต่ต้นปี หวังเป็นตัวช่วยให้ทุกคนเพรียวขึ้นพร้อมไปกับระบบขับถ่ายที่ดี ยิ่งช่วยทำให้สบายตัว จุดเด่นของสินค้าตัวนี้นอกจากจะช่วยเรื่องควบคุมน้ำหนักและการขับถ่ายแล้ว ยังช่วยปรับสมดุลลำไส้ ทำให้สามารถขับถ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ปวดบิด หรือถ่ายเหลวเป็นน้ำเหมือนที่เคยทานมา เชื่อว่าหากผู้บริโภคได้ทดลองจะชื่นชอบ และได้ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน” นางสาวปิยจิต กล่าว