กำไรสุทธิปี 2565

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลผลการดำเนินงานประจำปี 2565 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ที่ประกาศออกมาโชว์กำไรสุทธิเติบโตเกิน 1000% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีจำนวน 6 บริษัท (รายละเอียดดูจากตารางประกอบ) ทั้งนี้ ยกตัวอย่างบริษัทที่กวาดกำไรสุทธิงวดประจำปี 2565 ได้อย่างแข็งแกร่ง ที่สำคัญทางนักวิเคราะห์ประเมินว่าแนวโน้มปี 2566 จะสามารถทำผลงานออกมาได้ดีต่อเนื่อง ได้แก่ INSURE, TR, CPH, RABBIT, M, PLANB บริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ INSURE รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 704.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,905.12% หรือ 690.37 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 14.07 ล้านบาท เป็นผลมาจากเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้สุทธิจากการประกันภัยต่อ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,647.78 ล้านบาท มาจากรายได้ค่าจ้างและค่าบำเหน็จ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,088.06 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้ตามกรมธรรม์ที่รับโอนมา เพื่อดูแลผู้เอาประกันภัยจาก บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในช่วงไตรมาสแรกและเบี้ยประกันภัยรับประจำปี 2565 อยู่ที่ 4,086 ล้านบาท และยังมีรายได้จากการลงทุน เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น 14.13 ล้านบาท รวมถึงรายได้อื่นเพิ่มขึ้น 25.21 ล้านบาท บริษัท ไทยเรยอน จำกัด (มหาชน) หรือ TR รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,503.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,815.43% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 89.49 ล้านบาท เป็นผลมาจากต้นทุนขายอยู่ที่ 1,401 ล้านบาท ลดลง 39.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีต้นทุน 2,328 ล้านบาท สาเหตุเนื่องจากปริมาณการผลิตลดลง และค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายอยู่ที่ 74 ล้านบาท ลดลง 84.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีค่าใช้จ่าย 488 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณขายลดลงและและอัตราค่าขนส่งทางทะเลลดลง บริษัท คาสเซ่อร์พีคโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPH รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 294.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,568.56% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 17.68 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูปและธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ RABBIT รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,208.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,271.02% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 88.16 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้รวมอยู่ที่ 7,930 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 6,572 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้มีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจประกันชีวิต 1,175 ล้านบาท จากการควบรวมงบการเงินของแรบบิทไลฟ์เต็มปี และการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจโรงแรมและบริการ 1,174 ล้านบาท หรือ 61.6% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของทั้งประเทศไทยและยุโรปและการฟื้นตัวของธุรกิจและภาคการท่องเที่ยว บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,438.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 998.51% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 130.98 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้ขายและบริการอยู่ที่ 15,728 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 11,182 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ปรับตัวดีขึ้น ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ รวมถึงนักท่องเที่ยวก็ได้เริ่มทยอยเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ส่งผลให้รายได้สามารถฟื้นตัวกลับมาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ประเมิน M คาดว่ายอดสาขาเดิม SSSG ปี 2566 ไว้ที่ 10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนได้แรงหนุนจากราคาอาหารปรับขึ้น 4% และการฟื้นตัวในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงการกลับมาเปิดพรมแดนของจีนน่าจะเป็นปัจจัยบวก สำหรับ LCS คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2566 จะเพิ่มเป็น 66.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรขั้นต้น 65.3% แต่ยังต่ำกว่าระดับก่อนโควิดจากต้นทุนค่าสาธารณูปโภคและเงินเดือนที่สูงขึ้น โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ไว้ที่ 2.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 69% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ยังคงแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 66 บาท บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 703.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 998.04% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 64.04 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 6,590 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 4,443 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยและธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมิน PLANB ว่าแนวโน้มประมาณการกำไรปี 2566 อยู่ที่ 880 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากรายได้ขยายตัว 4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้สื่อนอกบ้าน OOH ขยายตัว 4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วน GPM ขยายตัวจากอัตราการใช้งานที่ดีขึ้น