กำไรโต 3 เท่าตัว

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวมรวบบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (บจ.) ทั้งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ที่ได้รายงานผลประกอบการงวดปี 2564 ว่ามีกำไรสุทธิเติบโตเกิน 300% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยังมีแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2565 จะเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง อาทิ EKH, SKN, FMT, SNNP, TOG, RPH, และ BOL ดังตาางประกอบ โดยบริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH รายงานผลประกอบการงวดปี 2564 มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 344.83 ล้านบาท โต 378.24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 72.10 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทมีรายได้รวม 1,165.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 82.87 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมี 637.42 ล้านบาท กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 356.01 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีจำนวน 104.40 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 241.01 ปัจจัยหลักที่ทำให้รายได้และกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่องส่งผลทำให้ผู้เข้ารับบริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และเข้าพักรักษาในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก อีกทั้งในปี 2564 โรงพยาบาลได้เปิดให้บริการ Hospitel ที่โรงแรมเซ็นทรัลเพลส และเตียงสนามที่สถานปฏิบัติธรรม วัดโกรกกรากเพื่อรองรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ในส่วนของรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้จากเงินลงทุนจำนวนเงิน 44.38 ล้านบาท รายได้ค้าเช่าและอื่นๆ จำนวน อีก 10.30 ล้านบาท พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 01 ม.ค. 2564 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564 เป็นหุ้นปันผล สัดส่วน 25 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล และปันผลเป็นเงินสด 0.13 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 5 พ.ค.2565 และกำหนดจ่ายปันผล 20 พ.ค.2565 บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า EKH สำหรับแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 1/2565 ของ EKH มีโอกาสลุ้นโตจากไตรมาสก่อน จากการระบาดของโอมิครอนที่เร่งขึ้นทำให้เตียงเริ่มกลับมาแน่นอีกครั้ง และยังชดเชยลูกค้า IVF ชาวจีนที่กลับมาช้ากว่าแผนได้ ส่วนภาพทั้งปี 2565 แม้ทางฝ่ายวิจัยคาดกำไรปกติหดตัวแรงที่ 168 ล้านบาท ลดลง 46% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากฐานที่สูงปีก่อน แต่ยังคงเป็นระดับที่สูงกว่าปี 2562 ซึ่งยังไม่มี COVID-19 ได้ นอกจากนี้ EKH ประกาศจ่ายหุ้นปันผล 25 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล ทำให้หลังจาก XD ราคาเป้าหมายของทางฝ่ายวิจัยจะขยับลงเล็กน้อยจาก 9.40 บาทเหลือ 9.05 บาท ส่วนระยะยาวยังคงได้อานิสงส์บวกตามการทยอยเปิดประเทศหนุนลูกค้า IVF ฟื้นตัว รวมถึงการต่อยอดไปยังธุรกิจความงามใน The Klinique และโรงพยาบาลผู้สูงอายุ คงคำแนะนำ “ซื้อ” ส่วนบริษัท ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SKN รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2564 มีกำไรสุทธิ 776.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 376.25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 163.08 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายปี 2564 อยู่ที่ 4,180.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2,466.93 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯประกาศจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2564 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.28 บาท โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 10 มี.ค.2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พ.ค. 2565 ด้านบริษัท ไฟน์ เม็ททัล เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ FMT รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2564 มีกำไรสุทธิ 219.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 366.37 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 47.07ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายปี 2564 อยู่ที่ 7,185.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 4,802 ล้านบาท เนื่องจากราคาทองแดงตลาดโลกสูงขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯประกาศจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2564 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 2.625 บาท โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 10 มี.ค.2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พ.ค. 2565 บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP รายงานผลประกอบการงวดปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.64 2564 มีกำไรสุทธิ 437.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 365.98 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 93.82 ล้านบาท โดยปี 2564 บริษัทมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2563 จากการเติบโตของรายได้จากการขายในประเทศร้อยละ 8.6 และรายได้จากการขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้จากการขายสำหรับปี 2563 หลังการปรับปรุงฯ ตามลำดับ พร้อมกันนี้ ในปี 2564 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายเท่ากับ 512.6 ล้านบาท ลดลง 206.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.7 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 โดยมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงวิธีบันทึกรายได้และค่าใช้จ่ายในงบการเงิน รวมหลังจากการเปลี่ยนแปลงเงินลงทุนในบริษัทย่อยเป็นการร่วมค้าของสิริโปร และการบริหารจัดการงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายในการบริหารเท่ากับ 224.5 ล้านบาท ลดลง 53.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.2 เมื่อเทียบกับ ช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 โดยมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงวิธีบันทึกรายได้และค่าใช้จ่ายในงบการเงินรวมหลังจากการเปลี่ยนแปลงเงินลงทุนในบริษัทย่อยเป็นการร่วมค้าของสิริโปรและการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกันนี้บริษัทเตรียมปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ก.ค.64 – 31 ธ.ค.64 เป็นเงินสด 0.14 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 28 เม.ย.65 และกำหนดจ่าย 18 พ.ค.65 ด้านนายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP เปิดเผยว่า ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2565 ทั้งรายได้และกำไรน่าจะเติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่องจากปี 2564 เนื่องจากผลการดำเนินงานของบริษัทลูกเริ่มออกดอกผล การจับจ่ายในประเทศเริ่มฟื้นตัว หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น ขณะที่ยอดขายในประเทศเวียดนามเติบโตอย่างโดดเด่นกลายเป็นตลาดส่งออกหลัก โดยวางเป้ายอดขายปี 2565 ทะยานแตะ 5,000 ล้านบาท ทั้งนี้ในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 100 ล้านบาท โดยมีแผนที่จะลงทุนในการเข้าซื้อหรือจัดตั้งธุรกิจที่เกี่ยวกับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อต่อยอดธุรกิจ ผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีกับผู้ถือหุ้น ด้านบริษัท ไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TOG รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 310.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 350.88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 68.78 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานงวดปี 2564 มีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีรายได้รวม 2,466 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 616 ล้านบาท หรือร้อยละ 33 โดยปัจจัยหลักมาจากรายได้จากการขายและบริการ 2,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 543 ล้านบาท หรือร้อยละ 30 โดยมีการเพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์กลุ่มเลนส์พลาสติกมูลค่าเพิ่ม 231 ล้านบาท กลุ่มเลนส์พลาสติกธรรมดา 195 ล้านบาท และกลุ่มเลนส์สั่งฝนพิเศษ 83 ล้านบาท นอกจากนั้นบริษัทฯ ประกาศจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงาน 1 ก.ค.2564 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2564 และกำไรสะสม เป็นเงินสดในอัตรา 0.35 บาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 19 เม.ย.2565 กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 พ.ค.2565 ส่วนบริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) หรือ RPH รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 402.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 93.84 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานงวดปี 2564 โดยผลการดำเนินงานงวดปี 2564 มีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลในปี 2563 และปี 2564 จำนวน 799.33 ล้านบาท และ 1,412.56 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 76.72 โดยเกิดจากโรงพยาบาลได้รับรักษาผู้รับบริการจากการติดเชื้อไวรัสโควิค-19และจากการเปิด Hospitel หลายแห่ง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังจ่ายปันผลจากงวดงวดดำเนินงานวันที่ 1 ก.ค. 2564 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564 และกำไรสะสม เป็นเงินสดในอัตรา 0.25 บาท/หุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่10 มี.ค.2565 กำหนดจ่ายเงินวันที่ 20 พ.ค.2565 ปิดท้ายบริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) หรือ BOL รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 233.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 315.20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 56.17 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานมีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากรายได้รวมปี 2564 อยู่ที่ 650.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.88 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการข้อมูล นอกจากนี้บริษัทฯ ยังจ่ายปันผลจากงวดงวดดำเนินงานวันที่ 1 ก.ค. 2564 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564 และกำไรสะสม เป็นเงินสดในอัตรา 0.25 บาท/หุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 24 ก.พ. 2565 กำหนดจ่ายเงินวันที่ 18 เม.ย. 2565 *ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน