ขนมกัญชง

นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ผู้นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวของประเทศไทย เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานสำหรับงวดไตรมาส3/2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 61.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.1% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 50.9 ล้านบาท ในขณะที่งวด 9 เดือนของปี 2564 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 316.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 454.8% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 57.0 ล้านบาท ปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลจากการที่ยอดขายในประเทศยังขยายตัวได้ดี และสามารถเติบโตได้มากกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรม แม้ว่าไตรมาส 3/64 ต้องเผชิญกับสถานการณ์ COVID-19 ทำให้บริษัทฯต้องใช้มาตรการ Bubble & Seal ในการป้องกันการแพร่ระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นในโรงงาน ตลอดจนการเข้าร่วมโครงการ Factory Sandbox ตามนโยบายภาครัฐ ซึ่งเป็นเหตุให้ประสบปัญหาในการผลิตสินค้าไม่เพียงพอ และมีตุ้นทุนในการผลิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงต้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังสามารถบริหารประสิทธิภาพในการผลิต และควบคุมค่าใช้จ่ายในด้านอื่นๆไว้ได้อย่างดี รวมถึงภายหลังจากการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียน ได้นำเงินที่ได้จากการขายหุ้นไอพีโอไปชำระคืนหนี้สถาบันการเงินบางส่วน ทำให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลง ส่งผลให้บริษัทฯสามารถมีอัตรากำไรสุทธิที่ดีขึ้นกว่าปีก่อนได้ "ผลดำเนินการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เป็นผลมาจากความมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยว ทั้งในด้านคุณภาพและการบริการ ตลอดจนการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่หนึ่งในใจของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์สินค้าหลักอย่างเจเล่และเบนโตะ สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง และจากผลงานในช่วง 9 เดือน ยังเติบโตได้ดี ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมทั้งปี 2564 จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้"นายวิวรรธน์ กล่าว ขณะที่แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 4/2564 น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปีนี้ เนื่องจากนโยบายการเปิดประเทศจะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภคให้ฟื้นตัว อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเริ่มมีสัญญาณที่ดี ดังนั้นน่าจะสนับสนุนให้ยอดขายเติบโตได้มากขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทฯ พยามยามเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์เจเล่และเบนโตะ รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีการพัฒนาจากนวัตกรรมจากพืชเศรษฐกิจกัญชง-กัญชา โดยคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในปีนี้ และน่าจะได้มีผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค “ในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ บริษัทฯมีแผนจะร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรรายใหญ่ ที่จะพัฒนาสินค้าร่วมกันภายใต้แบรนด์สินค้าของ SNNP และแบรนด์สินค้าระดับโลก (Brand Collaboration) ซึ่งจะช่วยยกระดับให้แบรนด์สินค้าของ SNNP เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น และจะช่วยผลักดันให้ผลงานในโค้งสุดท้ายของปีนี้เติบโตทำสถิติสูงสุดในปีได้อย่างแน่นอน”นายวิวรรธน์ กล่าว