คดีฉ้อโกง

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (24 พ.ค.67) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยในฐานะผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK แจ้งความคืบหน้าในการดำเนินคดีที่ได้มีการฟ้องร้องให้ STARK (ผู้ออกหุ้นกู้) ชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยของหุ้นกู้ครั้งที่ 1/64 (หุ้นรุ่น STARK239A หุ้นกู้รุ่น STARK249A) และหุ้นกู้ครั้งที่ 1/65 (หุ้นกู้รุ่น STARK245A หุ้นกู้รุ่น STARK255A) ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ โดยศาลได้อ่านคำพิพากษาแล้วเมื่อวันที่ 23 เม.ย.67 ที่ผ่านมา พร้อมได้ออกคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษา ซึ่งครบกำหนดระยะเวลาในการปฏิบัติตามคำพิพากษาในวันที่ 23 พ.ค. 67 ขณะนี้ ได้พ้นกำหนดระยะเวลาในการปฏิบัติตามคำพิพากษาและคำบังคับของศาลแล้ว อย่างไรก็ตาม STARK (ผู้ออกหุ้นกู้) มิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาดังกล่าว ดังนั้นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้จะดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาต่อไปโดยเร็วและหากมีความคืบหน้าที่สำคัญประการใดผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้จะได้แจ้งให้ผู้ถือหุ้นกู้รับทราบต่อไป ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 เม.ย.67 ศาลแพ่งสั่งให้ STARK จ่ายเงินให้กับ KBANK โดยต้องชดใช้หุ้นกู้ 4 รุ่น กว่า 5,000 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยและค่าเสียหายอีก 1 ใน 4 โดยกำหนดให้จ่ายภายใน 30 วัน ไม่เกินวันที่ 23 พ.ค. 67 ขณะที่ นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ทนายความจาก สำนักกฎหมาย VLA กล่าวว่า แม้ STARK ยังไม่สามารถจ่ายค่าเสียหายตามที่ KBANK ฟ้องได้ทันตามกำหนด แต่กฎหมายได้เปิดช่องให้สามารถขอขยายเวลายื่นอุทธรณ์ได้ ในเวลาที่กำหนด หรือภายใน 23 มิ.ย.67 แต่การอุทธรณ์ STARK ต้องวางเงินประกันเท่ากับมูลค่าความเสียหาย ซึ่ง STARK อาจไม่มีเงินวางประกันเพื่ออุทธรณ์ได้ ทั้งนี้ KBANK ต้องไปไล่เบี้ยกับ STARK ซึ่งเป็นเรื่องยากเพราะ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ยึดทรัพย์สินของ STARK เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ KBANK ในฐานะผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เตรียมอุทธรณ์ของปรับวงเงินค่าความเสียหายเพิ่มเติม ส่วนคดีที่ประชาชนเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง STARK เพื่อรับเป็นคดีแบบ Class Action ศาลแพ่งจะเริ่มไต่สวน STARK และพวก 24 รายครั้งแรก ในวันที่ 7 มิ.ย.67 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะใช้เวลาไต่สวนราว 3-4 เดือน จึงจะทราบผล