คดีปั่นหุ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 พ.ค.67) จากกรณีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยกองคดีการเงินธนาคารและการฟอกเงิน ได้ทำการสอบสวนคดีพิเศษที่ 66/2566 ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กรณี สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันสร้างราคาหลักทรัพย์ บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE และบริษัทหลักทรัพย์ร้องทุกข์ในความผิดฐานฉ้อโกง โดยนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มาร่วมสอบสวนตามมาตรา 33 แห่ง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ นั้น ล่าสุดดีเอสไอ ได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้น ทางคดีมีพยานหลักฐานพอดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จำนวน 42 คน เนื่องจากพบพฤติการณ์ร่วมกันสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE อย่างต่อเนื่อง ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ ทำการส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะทำให้สภาพการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด และเข้าข่ายทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ MORE อันเป็นความผิดฐานสร้างราคาหลักทรัพย์ ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 244/3 (1) และ (2) ประกอบมาตรา 244/5 และมาตรา 244/6 รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 800 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่าการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าวยังเป็นความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงบริษัทหลักทรัพย์ มูลค่าความเสียหายกว่า 4.5 พันล้านบาท อีกฐานหนึ่ง รวมถึงความผิดฐานเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 มาตรา 209 และมาตรา 210 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบได้มีความเห็นทางคดีเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ในวันที่ 2 พ.ค. 67 คณะพนักงานสอบสวน ได้นำสำนวนการสอบสวน เอกสารทั้งสิ้นจำนวน 75 แฟ้ม พร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาดังกล่าวทั้ง 42 คน ตามพฤติการณ์ความผิดที่แต่ละคนเกี่ยวข้อง พร้อมนำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ขณะนี้ยังไม่มีการรายงานว่าผู้ต้องหาทั้ง 42 ราย ที่ส่งฟ้องอัยการจะมีบุคคลในตระกูลพรประภา จำนวน 3 รายที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาหรือไม่ อันประกอบด้วยนายเอกภัทร พรประภา, นายอธิภัทร พรประภา และ นางอรพินธุ์ พรประภา อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้มีรายชื่อผู้ถูกกล่าวในคดี ที่มีเปิดเผยชัดเจนในสื่อต่างๆ จำนวน 32 ราย ประกอบด้วย 1.นายอภิมุข บำรุงวงศ์, 2.นายเอกภัทร พรประภา, 3.นายอธิภัทร พรประภา, 4.นางอรพินธุ์ พรประภา, 5.นายอิทธิวรรธน์ วรรณะเอี่ยมพิกุล, 6.บริษัท ตงฮั้ว แคปปิตอล จำกัด, 7.บริษัท ตงฮั้ว มีเดีย แล็บ จำกัด, 8.นายสมนึก กยาวัฒนกิจ, 9.นายโสภณ วราพร, 10.นายวสันต์ จาวลา, 11.นายภูดิท สุจริตกุล, 12.นายวัชรินทร์ ยังให้ผล, 13.Mr. Shubhodeep Prasanta Das, 14.นายธนยุทธ ฤกษ์รักษา, 15.นายธรรมนูญ เวชวิทยาขลัง, 16.นายภัทร ฉัตรเจริญสุข, 17.นายชยพล พันธุ์แพ, 18.นางสาวปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา, 19.นายพิเชษฐ์ ผลสุวรรณชัย, 20.นางศศินภา วราพร, 21.นายประยูร อัสสกาญจน์, 22.นางสาวจิระวรรณ ไชยพงศ์ผาติ, 23.นายเกรียงศักดิ์ วงศ์โอสถพานิช, 24.นายมั่นคง เสถียรถิระกุล, 25.นายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ, 26.นางสาวอรเก้า ไกยสิทธิ์, 27.นายวิศรุต เจียมจิตพลชัย, 28.นางสาวสิริรัตน์ สมณาศรี, 29. นายปรณัฐ นุชาชาติพงศ์, 30.นายธีรพงศ์ ด่านวณิชวงศ์, 31.นางสาวสุร์ศิริ ปรีดาสุทธิจิตต์ และ 32.นางสาวอัยลดา ชินวัฒน์