ควบรวมกิจการ TRUE-DTAC

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ก.ย.65) ณ เวลา 10.01 น. ราคาหุ้น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE อยู่ที่ระดับ 5.05 บาท บวก 0.19 บาท หรือ 3.91% สูงสุดที่ระดับ 5.15 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 687.85 ล้านบาท ด้าน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC อยู่ที่ระดับ 45.50 บาท บวก 2.25 บาท หรือ 5.20 บาท สูงสุดที่ระดับ 46.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 45.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 503.35 ล้านบาท ทั้งนี้ ราคาหุ้น TRUE และ DTAC ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงวันนี้ หลังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่งหนังสือตอบกลับไปยังสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยมีความเห็นว่า การรวมกิจการโทรคมนาคมระหว่าง TRUE และ DTAC ต้องยึดตามประกาศ กสทช.ปี พ.ศ.2561 ที่กำหนดให้การรวมธุรกิจกระทำได้โดยจัดทำรายงาน ส่งให้กสทช.ก่อนล่วงหน้าและรายงานหลังควบรวมธุรกิจแล้ว นั่นหมายถึงว่า กสทช.ไม่มีอำนาจ “อนุญาต” หรือ “ไม่อนุญาต” การควบรวมกิจการได้ โดยประเด็นดังกล่าวถือว่าเป็นผลเชิงบวกต่อการควบรวมกิจการ TRUE และ DTAC ทันที เนื่องจากการพิจารณาเรื่องการควบรวบกิจการของบอร์ดกสทช.ล่าสุด (14 ก.ย.65) ระบุว่า เหลือเพียงรอผลการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาเท่านั้น ขณะที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย ที่เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นข่าวดีมาก สำหรับหุ้น TRUE และ DTAC และไม่ผิดจากที่ได้เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าการควบรวมกิจการจะสำเร็จแน่นอน โดยประเมินว่าราคาหุ้นทั้ง 2 บริษัท จะวิ่งเข้าหาราคาเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) โดย TRUE มีราคา เทนเดอร์ อยู่ที่ 5.09 บาท และ DTAC ราคาเทนเดอร์อยู่ที่ 47.76 บาท โดยวานนี้(20 ก.ย.65)ราคาหุ้น TRUE ปิดตลาด 4.86 บาท และราคาหุ้น DTAC ปิดตลาด 43.25 บาท และมั่นใจว่า วันนี้ราคาหุ้นทั้ง 2 บริษัทจะพุ่งขึ้นแรงแน่นอน พร้อมประเมินว่า DTAC จะเพิ่มขึ้น 5-8% ส่วน TRUE จะเพิ่มขึ้นประมาณ 3-5% จากราคาปิดตลาดวานนี้ เทียบกับราคา Tender Offer อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูการประชุมกสทช.วันนี้ก่อนว่าจะพิจารณาอย่างไร จะยึดตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาแนะนำ หรือว่าพิจารณาเรื่องนี้เอง แต่เชื่อมั่นว่าบอร์ด กสทช.น่าจะยึดตามคำแนะนำของคณะกรรมการกฤษฎีกามากกว่า มิเช่นนั้น กสทช.คงไม่ส่งหนังสือขอคำปรึกษาจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ขณะเดียวกันต้องรอดูด้วยว่า คณะกรรมการกสทช.จะออกมาตรการควบคุม หรือเยียวยาผลกระทบจากการควบรวมนี้อย่างไรบ้าง