คอล ดีฟอลต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(27 ก.ย.66) จับตาการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เพื่อขอขยายเวลาครบกำหนดชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้รุ่น JKN239A ที่เหลือ 432.45 ล้านบาท ออกไปเป็นวันที่ 23 ก.พ.67 และชำระเงินต้นบางส่วน พร้อมเสนอเพิ่มดอกเบี้ยหุ้นกู้เป็น 7% จากเดิม 6.60% ต่อปี เพื่อผ่อนผันไม่ให้เกิดเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิและไม่เรียกชำระหนี้หุ้นกู้โดยพลัน (Call Default) นอกจากนี้จะมีประชุมผู้ถือหุ้นกู้อีก 6 รุ่นที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 67-68 ในวันที่ 12 ต.ค. 66 เพื่อขอผ่อนผันเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้และไม่ถือเป็น Call Default โดยก่อนหน้า JKN บริษัทได้รับหนังสือจากบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จํากัด และบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับหุ้นกู้ของ JKN ครั้งที่ 2/2563 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2566 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนก่อนครบกำหนดไถ่ถอน (หุ้นกู้รุ่น JKN239A) บริษัทได้กําหนดวันจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้รุ่น JKN239A ในวันนี้ เวลา 14.00 น. ด้วยวิธีการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียน เพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นกู้ที่มีสิทธิเข้าประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 13 กันยายน 2566 เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับเหตุผิดนัดภายใต้ข้อกําหนดสิทธิของหุ้นกู้รุ่น JKN239A และการดำเนินการแก้ไขเหตุผิดนัดดังกล่าว โดยมีระเบียบวาระการประชุมดังนี้ วาระที่ 1 พิจารณาอนุมัติการขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้โดยไม่ถือเป็นเหตุผิดนัด โดยเสนอให้ผู้ถือหุ้นกู้พิจารณาอนุมัติการขยายวันครบรอบไถ่ถอนหุ้นกู้รุ่น JKN239A มูลค่า 609.89 ล้านบาท จากวันที่ 1 ก.ย. 2566 เป็นวันที่ 23 ก.พ. 2567 และพิจารณาอนุมัติเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้และเอกสารเกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับการขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนดังกล่าว ขณะเดียวกันการชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้บางส่วน ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นกู้มีมติอนุมัติการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้รุ่น JKN239A เพื่อขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนบริษัทมีแผนที่จะชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้รุ่นดังกล่าวบางส่วนพร้อมดอกเบี้ย (ในอัตราดอกเบี้ยใหม่) หากได้รับการอนุมัติจำนวน 19.50 ล้านบาท ในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 คงเหลือเงินต้นที่ต้องชำระ 432.45 ล้านบาท ซึ่งจะชำระในวันครบกำหนดไถ่ถอนใหม่วันที่ 23 ก.พ. 2567 ซึ่งการแบ่งชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้ตามรายละเอียดข้างต้นไม่ถือเป็นกรณีการไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน ส่วนการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ และแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้หรือเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทเสนอให้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้รุ่น JKN239A ตามที่ระบุในข้อกำหนดสิทธิในอัตรา 0.40% ต่อปี จากอัตราดอกเบี้ยเดิม 6.60% ต่อปี เป็นอัตราดอกเบี้ยใหม่ 7% ต่อปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ใหม่ (โดยรวมถึง) จะบังคับใช้ตั้งแต่วันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้เดิม (Maturity Date) คือ วันที่ 1 ก.ย. 2566 จนถึงวันที่ 23 ก.พ. 2567 ที่เป็นวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ใหม่ และการขอผ่อนผันให้การผิดนัดชำระเงินต้น และเงินดอกในวันครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 1 ก.ย. 2566 ไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิและไม่เรียกชำระหนี้หุ้นกู้โดยพลัน (Call Default) และวาระที่ 2 พิจารณาเรื่องอื่น ๆ นอกจากนี้ในส่วนของหุ้นกู้รุ่นอื่น ๆ ของบริษัท ได้แก่ 1.หุ้นกู้ของบริษัทครั้งที่ 1/2565 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 (JKN243A) มูลค่า 300 ล้านบาท, 2.หุ้นกู้ของบริษัทครั้งที่ 2/2565 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 (JKN246A) มูลค่า 579 ล้านบาท, 3.หุ้นกู้ของบริษัทครั้งที่ 3/2565 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 (JKN24OA) มูลค่า 400 ล้านบาท, 4.หุ้นกู้ของบริษัทครั้งที่ 4/2565 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 (JKN24NA) มูลค่า 800 ล้านบาท, 5.หุ้นกู้ของบริษัทครั้งที่ 1/2566 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 (JKN252A) มูลค่า 525 ล้านบาท และ 6.หุ้นกู้ของบริษัทครั้งที่ 2/2566 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 (JKN255A) มูลค่า 157 ล้านบาท โดยบริษัทได้หารือร่วมกับผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อกำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นกู้ทุกรุ่นข้างต้น และพิจารณาการขอผ่อนผันให้เหตุผิดตามข้อกำหนดสิทธิไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้และไม่ถือเป็น Call Default ซึ่งบริษัทจะจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 12 ตุลาคม 2566 และจะกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นกู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นกู้แต่ละรุ่นดังกล่าวในวันที่ 28 กันยายน 2566