คำสั่งด่วน

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนีั (26 ก.ค.67) แหล่งข่าวจากกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยกับ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสระแก้วเพื่อศึกษาสถานการณ์การค้าการลงทุนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และติดตามความคืบหน้าในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว และการส่งเสริมการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ตามข้อตกลงที่ผู้นำสองประเทศได้เห็นชอบร่วมกัน โดยที่ผ่านมา ได้ดำเนินการลงทุนแล้ว ใน 4 ตำบลเขตเศรษฐกิจพิเศษในไทย ได้แก่ ต.ผักขะ ต.บ้านด่าน ต.ท่าข้าม และ ต.ป่าไร่ มีมูลค่าสะสมตั้งแต่ปี 58 จำนวน 8,142 ล้านบาท เป็นประเภทกิจการ บรรจุภัณฑ์พลาสติก อาหารสัตว์ ผลิตภัณฑ์น้ำตาล และผลิตภัณฑ์สุขอนามัย ซึ่งพื้นที่ จ. สระแก้วมีศักยภาพ สามารถพัฒนาได้อีก เพราะ มีจุดเด่นดึงดูดธุรกิจแปรรูปเกษตรและอาหาร จำพวก อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ นอกจากนี้ มีรายงานว่า นายสุรวุฒิ วงษ์สำราญ รองประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว ได้ส่งข้อมูลที่เป็นข้อห่วงกังวลส่งมาถึงกระทรวงต่างประเทศ ระบุว่า จ.สระแก้ว ถือเป็นประตูการค้าการลงทุนที่สำคัญที่สุดระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยในปี พ.ศ. 2566 การค้าชายแดนไทย – กัมพูชา ด้านจังหวัดสระแก้ว มีมูลค่า 1.02 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 61.35 ของการค้าชายแดนไทย – กัมพูชาทั้งหมด และลดลงร้อยละ 22.11 เมื่อเทียบกับปี 2565 เนื่องจากหลายสาเหตุ อาทิ สินค้าจากจีนที่มีราคาถูกกว่ามาตัดราคาแข่งขัน ตั้งแต่สินค้าอุปโภค บริโภค อาหารทะเล ตลอดจนทางกัมพูชาก็ไม่ได้ให้สิทธิพิเศษทางภาษีกับเอสเอ็มอีไทยเหมือนเคย ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากกระทรวงต่างประเทศ ยังระบุทิ้งท้ายด้วยว่า นอกเหนือจากเรื่องการค้าชายแดนไทย-กัมพูชาแล้ว นายกรัฐมนตรี ยังได้กำชับให้ นายมาริษ สรุปรายงานความคืบหน้าเรื่อง การกระชับความร่วมมือไทย-จีน ทางด้านเศรษฐกิจ ตั้งแต่การค้าสินค้าเกษตร การเป็นหุ้นส่วนด้านการลงทุนในระยะยาว ความเชื่อมโยงระดับภูมิภาค รวมทั้งสนับสนุนการแลกเปลี่ยนในทุกระดับตั้งแต่ระหว่างรัฐบาล ภาคธุรกิจ พรรคการเมือง และ ประชาชน หลังจากที่เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้พบปะหารือกับ นายหลิว เจี้ยนเชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิเทศสัมพันธ์ พรรคคอมมิวนิสต์จีน ณ กรุงปักกิ่ง