คุณรื่นวดี สุวรรณมงคล

คำว่า “SET” ย่อมาจาก “The Securities Exchanges of Thailand” แปลตามตัวและหัวบทความก็คือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตกอยู่ในกำมือบมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA สัญชาติไต้หวันไปแล้วหรือ ตอนนี้และหลายเดือนเกือบเป็นปีมาแล้วด้วย ผมรู้สึก ไม่ยินดีปรีดาสักเท่าไหร่ เมื่อเห็น “หุ้นขึ้น” นั่นเพราะบ่อยครั้งไป ที่หุ้นถ่วงน้ำหนักเยอะใน SET50 ก็ยังทรง ๆ หุ้นหลายตัวยังติดลบเสียด้วยซ้ำ แต่หุ้น DELTA ขึ้นตัวเดียว พาตลาดพลิกบวกได้ นั่นคือ “มายาภาพ” ตลาดหุ้นไทย ขณะเดียวกัน เมื่อเห็น “หุ้นลง” ก็อย่าได้คิดว่า หุ้นใหญ่ใน SET50 ทั้งหลาย ไม่ว่ากลุ่มแบงก์ พลังงาน จะอ่อนตัวไปเสียทั้งหมด หุ้นหลายตัวยังพุ่งสวนทางด้วยซ้ำ แต่หุ้น DELTA ตัวเดียว พลิกตลาดเป็นลบได้ นี่ก็อีก “มายาภาพ” หนึ่ง ถามว่าตลาดหุ้นไทยเป็นอะไรไปแล้วหรือ ที่ปล่อยให้หุ้นตัวเดียว บงการตลาดให้ขึ้น-ลงได้ วันไหนหุ้น DELTA ขึ้น 10 บาท ก็จะชี้นำตลาดได้ 1 จุด หากขึ้น 100 บาท ก็ชี้นำตลาดได้เลย 10 จุด ใครไม่มาดูไส้ในที่หุ้น DELTA ก็จะเข้าใจผิดไปเลยว่าตลาดหุ้นฟื้นแล้ว ทั้งที่หุ้นตัวอื่น ๆ ยังไม่ปรับตัวขึ้นเลย นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นช่องทางสร้างความปั่นป่วนให้กับการลงทุนในตลาดอนุพันธุไม่ว่า SET50 Index หรืออนุพันธ์รายตัว รวมทั้งเป็นช่องทางให้นักลงทุนรายใหญ่เอาเปรียบรายเล็กในการจะทุบหุ้นเอาของหรือลากหุ้นไปเชือด โดยกดปุ่มลาก-ทุบไปที่หุ้น DELTA ตัวเดียวอีกด้วย เลขาธิการก.ล.ต. คุณรื่นวดี สุวรรณมงคล เคยเสนอตลาดหลักทรัพย์ฯ มาตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค. 63 ให้ทบทวนเกณฑ์ “ฟรี โฟลต” และมาตรการอื่น ๆ เพื่อคุ้มครองผู้ลงทุน โดยระบุเจาะจงไปที่หุ้น DELTA มาแล้วว่า “มีฟรี โฟลตที่แท้จริงค่อนข้างต่ำ” ผมทราบมาว่า เกณฑ์ที่ตลท.ใช้นับ “ฟรี โฟลต” นั้น ยึดถือเกณฑ์ว่า ถ้าใครหรือสถาบันใด ถือหุ้นไม่เกิน 5% ให้นับเป็นรายย่อยหมด ด้วยเหตุนี้ หุ้น DELTA ที่มีผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่เป็นกองทุนจึงสามารถแสดงภาพลวงตาเป็นหุ้นที่มีฟรี โฟลตสูงถึง 22% ได้ นอกจากนี้การเป็นหุ้นที่มีทุนจดทะเบียนไม่มาก เพียง 1,247 ล้านหุ้น ก็เป็นช่องให้เกิดการคอร์เนอร์ตลาดได้ง่ายมาก ราคาหุ้น DELTA จึงมักเว่อร์เสมอ นั่นจึงเป็นที่มาของคำเตือนจากก.ล.ต.ว่า DELTA เป็นหุ้นที่มีฟรี โฟลตสูงเกินจริง ทั้งที่ฟรี โฟลตต่ำ ตลท.รับทบทวนข้อห่วงใยของก.ล.ต.มาอย่างไรไม่รู้ ดันไปปรับลดเกณฑ์อัตราการหมุนเวียนซื้อขายหรือ Turnover ratio จาก 5% ลงมาเหลือ 2% เสียอีก ทำให้ DELTA ซึ่งเคยอยู่นอก SET50 กลับเข้ามาอยู่ใน SET50 ได้ และยิ่งจะกลายเป็น “พยัคฆ์ติดปีก” อาละวาดไปทั่วเข้าไปใหญ่ เมื่อจะมีวาระการประชุมแตกพาร์จาก 1.0 บาท เป็น 0.1 บาท ซึ่งจะเพิ่มจำนวนหุ้นขึ้นอีก 10 เท่า กลายเป็นหุ้นที่สามารถปลุกปั่นกันได้อย่างสนุกสนาน โดยกลบเกลื่อนพื้นฐานการเป็น “หุ้นฟรี โฟลตสูงเกินจริง” เสียสนิทฝังดินไปเลย มันจำเป็นนักหรือที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะต้องแก้กฎเกณฑ์ให้ DELTA เข้ามา SET50 และยังจะไฟเขียวให้แตกพาร์ เพื่อสร้างภาพมายาบิดเบือนตลาดฯ เข้าไปอีก ถามว่า DELTA เป็นหุ้นทรงคุณค่านักหรือที่จะต้องเอาใจกันถึงเพียงนี้! มาร์เก็ต แคป ปั่นขึ้นไปเป็นอันดับ 1 ของตลาดที่ 1,202,476 ล้านบาทแล้ว แต่ตัวเลขทางการเงินแย่มาก ๆ P/E สูงตั้ง 78 เท่า, P/BV ก็สูงเสียดฟ้าที่ 22 เท่า โดยราคาบุ๊กแค่ 43.80 บาท แต่ราคาทะลึ่งพรวดไป 882 บาท และยีลด์ก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดินแค่ 0.41% ขณะที่ยอดขายปี 65 แค่ 119,501 ล้านบาท และกำไรแค่ 15,344 ล้านบาท เทียบกับปตท. มาร์เก็ต แคป 9 แสนล้านบาท ถูกแซงหน้าไปแล้ว แต่ตัวเลขการเงินดีกว่ามาก ๆ P/E แค่ 9.87 เท่า, P/BV 0.85 เท่า แต่ยีลด็สูงถึง 6.35% ขณะที่ยอดขายปีที่แล้ว 3.39 ล้านล้านบาทครับ ไม่ใช่แค่ 1.19 แสนล้านเหมือน DELTA และกำไรในสภาพวิกฤติก็ยังทำได้ 9.1 หมื่นล้านบาท ไม่ต้องลดเกณฑ์เทิร์นโอเวอร์ เรโชเหมือน DELTA ปตท.และหุ้นบลูชิพตัวอื่น ๆ ใน SET50 ก็เทรดกันได้ตามปกติอยู่แล้ว DELTA คุณคือนักบุญหรือซาตานในตลาดหลักทรัพย์ไทยกันแน่ คุณทำบุญด้วยอะไรถึงได้รับการอุ้มสมซะขนาดนี้