ค่าการกลั่นสิงคโปร์

บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS ระบุในบทวิเคราะห์ กล่าวถึงบริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC คาดการณ์ว่าในไตรมาส 1/2567 จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรอยู่ที่ 759 ล้านบาท จากที่ในไตรมาส 4/2566 ขาดทุนสุทธิ 2 พันล้านบาท และหากไม่รวมผลขาดทุนหรือกำไรน้ำมัน รวมถึงผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน จะทำให้กำไรจากการดำเนินงานหลังภาษี (Core NPAT) อยู่ที่ 986 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1/2567 ซึ่งคิดเป็น 20% ของคาดการทั้งหมดของฝ่ายวิเคราะห์ที่ 4.87 พันล้านบาท โดยหลังจากการที่บริษัทมีการเดินเครื่องผลิตที่สูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการที่ตัวเลขการเดินเครื่องที่สูงขึ้นนั้น เป็นผลมาจากการเข้าซื้อหุ้น ESSO ของ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP อย่างไรก็ตาม การจะเพิ่มการผลิตให้เต็มร้อยนั้นอาจทำได้ยาก โดยจะต้องมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหาในบางหน่วยการผลิต สำหรับค่าการกลั่นพื้นฐาน (Market GRM) คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ราว 5.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในไตรมาส 1/2567 ซึ่งสูงกว่า 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในไตรมาส 4/2566 แต่ก็ยังต่ำกว่าค่าการกลั่นของสิงคโปร์อยู่ที่ 7.3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในไตรมาส 4/2566 ส่วน SPC มีค่าการกลั่นอยู่ที่ 7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นอกจากนี้ ยังประเมินว่า บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC จะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบพรีเมี่ยมในตะวันออกกลางที่ลดลง (ราคาน้ำมัน Murban ลดลงจาก 3.3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เหลือ 1.1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล) เนื่องจาก SPRC มีสัดส่วนการซื้อน้ำมันจากตะวันออกกลางที่มากกว่า BSRC ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ต้นทุนจากการชำระธุรกรรมเป็นเงินสด (Cash Cost) ในไตรมาส 1/2567 จะอยู่ที่ 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งอยู่ในระดับค่อนข้างใกล้เคียงกับผู้ผลิตรายอื่นในธุรกิจเดียวกัน เป็นการลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า โดยมองว่าเป็นผลบวกจากการซินเนอร์ยี่หลัง BCP เข้าซื้อ อย่างไรก็ดี ปริมาณการค้าปลีกน้ำมันของบริษัท มีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวเมื่อเที่ยบกับไตรมาสก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับ 887 ล้านลิตร แต่ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ว่าค่าการกลั่นพื้นฐานจะยิ่งลดลงจากต้นทุนที่สูงขึ้นจากการปฏิบัติตามกฎ Euro 5 โดยคาดการณ์ว่า กำไรก่อนหักต้นทุนทางการเงิน (EBIT) ของการค้าปลีกน้ำมันจะอยู่ในระดับต่ำที่ 145 ล้านบาทในไตรมาส 1/2567 ซึ่งเทียบกับค่าเฉลี่ยของปี 2566 อยู่ที่ 530 ล้านบาทต่อไตรมาส ดังนั้น ฝ่ายวิเคราะห์ยังมีมุมมองที่ดีต่อแนวโน้มค่าการกลั่นสิงคโปร์ และคาดการณ์ว่าจะเห็นวัฐจักรที่เติบโตของหน่วยธุรกิจพาราไซลีนในปีนี้ ซึ่งบริษัทจะได้ประโยชน์จากทั้งสองทาง รวมทั้งการลดต้นทุนและการดำเนินการผลิต โดยคาดการณ์ว่าบริษัทจะมีกำไรในปี 2567 จะอยู่ที่ 4.87 พันล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 5.91 พันล้านบาทในปี 2568 และเติบโตขึ้นสู่ระดับ 6.15 พันล้านบาทในปี 2569 โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น BSRC ราคาเป้าหมาย 11.40 บาท