ค้าปลีกเวียดนาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อที่ประเทศเวียดนามได้รายงานข่าวเกี่ยวกับ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ว่า ธนาคารรายใหญ่แห่งนี้จากประเทศไทย ได้จับมือกับ Seedcom Group กลุ่มบริษัทด้านการค้าปลีก (Retail) รายใหญ่ของเวียดนาม เพื่อเป็นพันธมิตรด้านกลยุทธ์ (Strategic Partner) กับ Kasikorn Vision หรือ KVision ของธนาคารกสิกรไทย โดย KVision ได้เข้าไปร่วมลงทุนใน Seedcom “ทั้งสองแห่งต่างไม่ได้มีการออกมาเผยถึงตัวเลขการลงทุนทั้งหมด” สื่อเวียดนาม ระบุ ทั้งนี้ Seedcom Group เป็นกลุ่มบริษัทค้าปลีกอันดับต้น ๆ ในเวียดนาม ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2014 โดย Huan Dinh อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง Mobile World Group โดย Seedcom Group เป็นเจ้าของธุรกิจทั้ง B2B และ B2C อย่างเช่น เชนร้านกาแฟ (The Coffee House, Juno, Hnoss และ Kingfood) อีกทั้งยังเป็น Solution Provider ผู้ให้บริการโซลูชั่นสำหรับธุรกิจ (Scommerce, Haravan, iPOS และ KiotViet) ซึ่งปัจจุบันนี้ Seedcom มีลูกค้า SMEs อยู่กว่า 200,000 ราย และลูกค้าผู้บริโภคอีกกว่า 2 ล้านรายในเวียดนาม การจับมือเป็นพาร์ตเนอร์ด้านกลยุทธ์ระหว่าง Seedcom และ KVision ในครั้งนี้ จะมีการขยายบริการของ Seedcom ออกไปในด้านการให้บริการทางการเงินแก่ ร้านค้า และผู้บริโภคทั่วไปในเวียดนาม ทั้งบริการด้านการชำระเงิน (Payment) สินเชื่อสำหรับ SMEs และบริการอื่น ๆ ที่ทำร่วมกัน เช่น ประกันภัย และการจัดการความมั่งคั่ง (Wealth Management) สื่อเวียดนามยังระบุด้วยว่า Seedcom กำลังพัฒนาระบบข้อมูลและความสามารถในการค้าปลีกแบบสมัยใหม่ หลังจากเผชิญกับปัญหาโควิด-19 และส่งผลกระทบอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้น Seedcom จึงต้องการเพิ่มประสิทธิภาพจากผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ได้รับจาก KVision เข้ามาช่วยยกระดับแพลตฟอร์มของบริษัท “แม้ว่าที่เวียดนามจะมีการจ่ายเงินด้วยเงินสดเพื่อซื้อสินค้ากันอยู่ค่อนข้างมาก แต่ก็เชื่อว่าตลาดพร้อมที่จะปรับเปลี่ยน หลังจาก KVision เข้ามาช่วยสร้างแพลตฟอร์ม ที่จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจจำนวนมาก” นายเหงียน โหห์ ซีอีโอของ Seedcom กล่าว ทั้งนี้ Seedcom อยู่ในฐานะกลุ่ม New Style Retail แห่งแรก และแห่งเดียวในเวียดนามที่มีระบบการค้าปลีกแบบออนไลน์ และออฟไลน์ มีรายงานด้วยว่า Ficus Asia Investment จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ อยู่เบื้องหลังของกลุ่ม Seedcom NVDR ลุยซื้อหุ้น KBANK ด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASPS กล่าวว่า วานนี้หุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตอบรับผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ที่ประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในครึ่งปีหลังปี 2565 นี้ ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายของไทยมีแนวโน้มปรับขึ้นเช่นกัน หลังจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ซึ่งจะเป็นผลดีต่อกลุ่มสถาบันการเงิน โดย ASPS แนะนำลงทุนหุ้นธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB และ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ยังคงเป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติเสมอมา โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาหุ้น KBANK มียอดซื้อสุทธิใน NVDR อยู่ถึง 2.6 พันล้านบาท และยังเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายดีขึ้นเรื่อย ๆ คาดว่าจะทำให้ทั้งการตั้งสำรองลดลงและความต้องการสินเชื่อจากการลงทุนรอบใหม่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลประกอบการในช่วงต่อไป บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดกําไรสุทธิปี 2565 ของ KBANK เติบโต 16.4% สู่ระดับ 3.8 หมื่นล้านบาทสอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มฟื้นตัวจากการทยอยเปิดประเทศ และการเติบโตของรายได้ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ หรือ NIM ค่าธรรมเนียมดีขึ้นและต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ หรือ Credit cost ลดลงคาด ROE 9.3% และปัจจุบัน Valuation เทรดเพียง PBV 0.66 เท่า เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 170 บาท นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2565 กลุ่มแบงก์พร้อมพื้นตัว โดยงวด 9 เดือนแรกปี 2564 ที่ผ่านมาทั้งระบบกําไรเติบโต 31% จากปีก่อน หรือ YoY โดย KBANK โตโดดเด่นสุดกว่า 73% คาดเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวหลังคลาย Lock down และ เปิดประเทศ 1 พ. ย.ที่ผ่านมา และเติบโตสูงในปี 2565 ซึ่งราคาหุ้นกลุ่มธนาคารถูกเทรดเพียง 0.7 เท่า ทั้งนี้ปี 2565 ผลประกอบการกลุ่มแบงก์จะปรับตัวดีขึ้น จึงปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนเป็น “Overweight” เชื่อพ้นจุดต่ำสุดแล้วเลือก BBL ราคาเป้าหมาย 159 บาท, KBANK เป้าหมาย 169 บาท, และธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP เป้าหมาย 76 บาท เป็น Top Picks ที่คาดว่าผลประกอบการจะเติบโตโดดเด่น