งบดูงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.พ.68) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงงบจัดทำ “ปฏิทิน” ของสำนักงานประกันสังคมว่า ในเรื่องนี้ขอให้ดูที่การปฏิบัติ โดยในปฏิทินประกันสังคม นอกจากด้านหน้าจะเป็นวันที่แต่ละเดือน ด้านหลังจะมีข้อความแสดงรายละเอียดสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนในแต่ละมาตรารวมอยู่ด้วย ทั้งมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 เพื่อสื่อสารสิทธิประโยชน์ไปยังผู้ประกันตน โดยเฉพาะแรงงานอิสระที่มีอยู่เกือบ 30 ล้านคน นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในแต่ละปีสำนักงานประกันสังคม จัดพิมพ์ปฏิทิน จำนวน 1 ล้านฉบับ ขณะเดียวกันมีผู้ประกันตนมาตรา 40 อยู่ประมาณ 12 ล้านคน อีก 10 กว่าล้านคนยังไม่ได้เข้ามาเป็นผู้ประกันตน ดังนั้นจึงสื่อสารสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่อยากเข้ามาเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 ได้รับทราบว่าเมื่อสมัครเข้ามาแล้วจะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง ซึ่งจะมีรายละเอียดอยู่ในปฏิทิน เพื่อในแต่ละปีจะได้ทราบว่าประกันสังคมจะให้สิทธิประโยชน์ในเรื่องอะไรบ้าง พร้อมเชิญชวนบริษัทต่าง ๆ ยื่นข้อเสนอเข้ามาในการจัดทำปฏิทิน ส่วนกรณีมีผู้นำปฏิทินประกันสังคมไปจำหน่ายในช่องทางออนไลน์นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า เรื่องนี้ได้ให้ทางฝ่ายกฎหมายของสำนักงานประกันสังคมไปตรวจสอบแล้ว ย้ำผลิตเพื่อแจกฟรีให้ผู้ประกันตนเท่านั้น ไม่ได้ทำมาเพื่อจัดจำหน่าย ดังนั้นหากมีเบาะแสขอให้ช่วยแจ้งเข้ามา สำนักงานประกันสังคมพร้อมจะดำเนินการตามกฎหมาย นายพิพัฒน์ ยังกล่าวถึงกรณีการยกเลิกการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมว่า ตามที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม ได้ร่างขึ้นมาในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยกำหนดเงื่อนไขว่าหากผู้ประกันตนไม่สามารถไปเลือกตั้งได้ ก็ขอให้มีคณะกรรมการสรรหาขึ้นมา ซึ่งได้มีการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.66 ขณะนี้คณะกรรมการประกันสังคม ได้ปฏิบัติหน้าที่มากว่า 1 ปีแล้ว ซึ่งแสดงถึงความโปร่งใสและไม่คิดที่จะย้อนกลับไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ เพราะเป็นการเสียเวลา และจะได้นำไปแก้ไข ตัดออกในขั้นกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยังชี้แจงถึงงบดูงานต่างประเทศของสำนักงานประกันสังคมว่า เราพร้อมที่จะเปิดเผย การที่บอร์ดประกันสังคมไปดูงานนั้นในเรื่องนี้ได้ประสานกับประเทศปลายทางว่า การไปดูงานนั้นมีวัตถุประสงค์อะไร ไปแล้วกลับมาเราต้องทำรายงาน “ยกตัวอย่าง ผมได้ไปดูงานที่ประเทศสวีเดนและเอสโตเนีย ซึ่งเป็น 2 ประเทศที่มีระบบประกันสังคมที่ดีที่สุดในโลก เพื่อดูว่าประเทศเหล่านี้มีการบริหารจัดการกองทุนประกันสังคมอย่างไร เนื่องจากหลายฝ่ายทั้ง ILO (องค์การแรงงานระหว่างประเทศ) และ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติวิเคราะห์ตรงกันว่า ในปี 2597 กองทุนประกันสังคมจะล่มสลาย ส่วนตัวเป็นห่วงกังวลในเรื่องนี้ เราจึงพยายามเปรียบเทียบว่าประเทศที่เจริญแล้วหรือทำสำเร็จแล้วเขาทำกันอย่างไร ซึ่งในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 31 พ.ค.67 สำนักงานประกันสังคมก็ได้เชิญนักวิชาการมหาวิทยาลัย พรรคการเมือง และประเทศต่างๆ ที่มีระบบประกันสังคมมาระดมสมองกันว่า จะทำอย่างไรให้กองทุนประกันสังคมของไทยยืนยาว” นายพิพัฒน์ กล่าว