งบแบงก์ปี 65

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมข้อมูลผลประกอบการประจำปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์จำนวน 10 แห่ง ซึ่งได้ออกมาครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยพบว่าผลประกอบการของงบการเงินที่ออกมาสอดคล้องตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ประเมินและตลาดคาดการณ์ไว้ สำหรับภาพรวมกำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ทั้ง 10 แห่ง พบว่า งวดประจำปี 2565 มีกำไรสุทธิรวม 200,662.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.69% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 182,933.20 ล้านบาท ส่วนใหญ่มีรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และมีการตั้งสำรองลดลง ทั้งนี้เมื่อเจาะลึกไปยังผลประกอบการของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 10 แห่ง พบว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิงวดประจำปี 2565 เติบโตเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ KTB, TTB, CIMBT, KKP, LHFG, BBL, TISCO, SCB เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นและมีการตั้งสำรองลดลง ขณะที่ KBANK, BAY กำไรสุทธิลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิลดลง รวมถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB รายงานผลประกอบการงวดปี 2565 กำไรสุทธิอยู่ที่ 33,697.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.09% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 21,588.29 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นและการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB รายงานผลประกอบการงวดปี 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 14,195.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.53% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 10,474.05 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นและการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT รายงานผลประกอบการงวดปี 2565 กำไรสุทธิอยู่ที่ 3,033.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.28% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2,440.56 ล้านบาท เป็นผลมาจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น และผลขาดทุนด้านเครดิตที่ดาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP รายงานผลประกอบการงวดปี 2565 กำไรสุทธิอยู่ที่ 7,602.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.32% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 6,318.05 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสินเชื่อที่มีการขยายตัวได้ดีในสินเชื่อทุกประเภท รวมถึงผลขาดทุนด้านเดรดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG รายงานผลประกอบการงวดปี 2565 กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,578.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.09% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,383.72 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นและการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL รายงานผลประประกอบการงวดปี 2565 กำไรสุทธิอยู่ที่ 29,305.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.56% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 26,507.04 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นและการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO รายงานผลประกอบการงวดปี 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,221.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.44% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 6,784.59 ล้านบาท เป็นผลมาจากการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้น บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB รายงานผลประประกอบการงวดปี 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 37,546.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.50% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 35,589.99 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นและการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK รายงานผลประกอบการงวดปี 2565 สามารถทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 35,769.49 ล้านบาท ลดลง 6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 38,052.72 ล้านบาท โดยสาเหตุมาจากธนาคารและบริษัทย่อยพิจารณาตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นจากปีก่อนในระดับสูง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY รายงานผลประกอบการงวดปี 2565 สามารถทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 30,712.99 ล้านบาท ลดลง 9.12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 33,794.19 ล้านบาท โดยสาเหตุมาจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิลดลง และค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น