ฉัตรมงคล เขมาภิรัตน์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 ธ.ค.67) กลุ่มบริษัทรับเหมาช่วง โครงการพลังงานสะอาด (CFP) จ.ชลบุรี รวม 28 บริษัท จำนวนกว่า 400 คน เดินทางมารวมตัวกัน บริเวณด้านหน้า สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย (สถานทูตเกาหลีใต้) เพื่อยื่นหนังสือต่อเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย เรียกร้องให้แก้ปัญหาการค้างชำระค่าจ้าง ที่เกิดขึ้นจากผู้รับเหมากลุ่มหลัก กิจการร่วมค้า UJV ซึ่งนำโดยบริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd. โดย นายฉัตรมงคล เขมาภิรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีราชา คอนสตรัคชั่น จำกัด ได้ยื่นหนังสือข้อเรียกร้องผ่านตัวแทนของสถานทูตเกาหลีใต้ ทั้งนี้ ในหนังสือดังกล่าวมี 4 ข้อเรียกร้อง ดังนี้ เข้าแทรกแซงกับบริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd. เพื่อเร่งรัดการชำระค่าจ้างที่ค้างชำระให้แก่ผู้รับเหมาช่วงทั้งหมดรวมเป็นเงินกว่า 6,000 ล้านบาท กระตุ้นให้บริษัท Samsung Corporation ใช้อำนาจที่มีในบริษัทสาขาเพื่อให้แน่ใจว่า จะมีการชำระเงินให้แก่ผู้รับเหมาช่วงทุกบริษัทอย่างครบถ้วนและตรงเวลา อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างผู้รับเหมาช่วงที่ได้รับผลกระทบและบริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd. เพื่อแก้ไขปัญหานี้ด้วยวิธีการที่เป็นมิตร กระตุ้นให้บริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd. ทบทวนและแก้ไขข้อกำหนดในสัญญาที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่สมเหตุสมผลเพื่อให้แก้ไขปัญหาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจาก บริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd. กิจการร่วมค้า UJV ยังมีอีก 2 บริษัทต่างชาติ คือ Petrofac South East Asia Pte. Ltd. และ Saipem Singapore Pte. Ltd. นายฉัตรมงคล เขมาภิรัตน์ เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ถึงการเคลื่อนไหวในวันนี้ว่า ปัญหาที่เกิดกับโครงการ CFP ของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ที่ผู้รับเหมาหลัก UJV ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ บริษัทซัมซุง ของประเทศเกาหลีใต้ เป็นเวลา 10 เดือนมาแล้ว ที่ UJV ไม่ชำระเงินให้กับผู้รับเหมาช่วง จำนวน 28 บริษัท รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 7,000 ล้านบาท เราเคยไปประท้วงที่ บมจ.ไทยออยล์ มาแล้ว และไปยื่นข้อเรียกร้องที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ทุกอย่างยังเงียบอยู่ ดังนั้นวันนี้จึงมาขอเรียกร้องความเป็นธรรมกับทางสถานทูตเกาหลีใต้ ซัมซุงเป็นบริษัทขนาดใหญ่ เป็นหนึ่งในผู้รับเหมาที่มาจ้างผู้เหมาช่วงในเมืองไทย เรามีความเชื่อถือในบริษัทซัมซุงที่เป็นบริษัทของเกาหลีใต้แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือการไม่ได้รับชำระเงินเป็นเวลา 10 เดือน มันเป็นเรื่องน่าผิดหวัง และเราคิดว่าเราอาจจะกำลังโดนผู้รับเหมาหลักโกงผู้รับเหมาช่วง ฉะนั้นจึงอยากมาเรียกร้องความเป็นธรรมกับสถานทูตเกาหลี นายฉัตรมงคล กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเราพยายามมองในเชิงของภาพรวมของกิจการร่วมค้า (Joint Venture) วันนี้เราคงจะมาเยี่ยมที่นี่ก่อนเป็นที่แรก เราอยากให้สถานทูตรับรู้ อยากให้ผู้บริหารซัมซุงรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างที่ประเทศไทย และเราก็อยากรู้คำตอบว่าทำไมบริษัทซัมซุงอันยิ่งใหญ่ ถึงไม่ชำระเงินให้กับพวกเรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีราชา คอนสตรัคชั่นฯ ยอมรับว่า มีแผนที่จะไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม กับสถานทูตที่บริษัทแม่ของอีก 2 บริษัทในกิจการร่วมค้า UJV ตั้งอยู่ด้วย นอกจากนี้ นายฉัตรมงคล ยังกล่าวชี้แจงถึงการร่วมลงสัตยาบันก่อนหน้านี้ว่า จริง ๆ เราลงสัตยาบันกันว่าถ้ามีการทำงานต่อ เราเชื่อว่าทางบมจ.ไทยออยล์พิจารณาดีแล้วและคิดว่าคงไม่น่าจะไปทำงานร่วมกับ UJV อีกจากสิ่งที่เกิดขึ้น ฉะนั้นการลงสัตยาบันของเรา ถ้าเกิดว่าเราไม่ได้รับการชำระเงิน เราไม่สามารถทำงานต่อได้ ด้วยสภาพทางการเงินของทั้ง 28 บริษัท แต่สำหรับการหยุดงานนั้น ต้องบอกว่าสัญญาไม่เป็นธรรม เราไม่สามารถหยุดงานได้ 10 เดือนที่ผ่านมาเรายังต้องทำงานแม้ไม่ได้รับค่าจ้าง จึงเป็นเหตุผลที่เราต้องเดินสายเรียกร้อง และวันนี้ต้องมาเรียกร้องที่สถานทูตเกาหลีใต้ ที่ตั้งของซัมซุง ทั้งนี้ หลังยื่นหนังสือกับตัวแทนของสถานทูตเกาหลีใต้เสร็จสิ้น นายฉัตรมงคล เปิดเผยว่า ทางสถานทูตฯ แจ้งว่าไม่สามารถตอบได้ เพราะจะต้องส่งเรื่องนี้ไปยังผู้เกี่ยวข้องก่อน และรับปากจะช่วยประสานงานให้ ถือว่าพอใจ ซึ่งเราอยากฝากว่าทำไมบริษัทซัมซุงอันยิ่งใหญ่จึงไม่ชำระเงินผู้รับเหมาคนไทยที่เป็นประเทศไทย ถ้าไม่ได้รับคำตอบในเดือนนี้ ต้นปี 2568 สัปดาห์แรกของเดือนมกราคม เราจะไปขอความเป็นที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นหลักของ บมจ.ไทยออยล์ เพื่อขอสอบถามถึงแนวทางการแก้ปัญหานี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ส่วนความคืบหน้ากรณีที่กลุ่มผู้รับเหมาช่วงเคยไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รับหนังสือแทน เมื่อวันที่ 12 พ.ย.67 ที่ผ่านมา ล่าสุดมีการตั้ง “คณะกรรมการ” ซึ่งมีตัวผู้แทนของผู้รับเหมาช่วงคนไทยร่วมด้วย โดยมีกำหนดจะประชุมในสัปดาห์หน้า พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง ที่เดินทางมาดูแลความสงบเรียบร้อย ด้านหน้าสถานทูตเกาหลีใต้ กล่าวว่า แกนนำได้แจ้งการชุมนุมกับเจ้าหน้าที่โดยถูกต้อง เป็นใช้สิทธิตามกฎหมาย ทางสถานทูตเกาหลีใต้ไม่ได้ร้องขอการดูแลความปลอดภัยเป็นพิเศษแต่อย่างใด ซึ่งตำรวจนำกำลังมาดูแลความสงบเรียบร้อย รวม 70 นาย