ชาคริต

* วันนี้ “โมนิก้า” ขอพักเบรกการขึ้นลงของตลาดหุ้นไว้ชั่วคราว เพราะสตอรี่ที่ทำให้หุ้นแกว่งตัวฉวัดเฉวียนล้วนมาจากโปรเจกต์ใหม่ ๆ ที่จะปั๊มกำไรเข้าบริษัทเป็นกอบเป็นกำนั้น ยังเป็นเพียงแค่ “นามธรรม” มากกว่า “รูปธรรม” จึงเปิดช่องให้ขาลุยเข้ามา “ลาก ๆ ทุบ ๆ “ กันอย่างสนุกมือ ผสานกับตลาดหุ้นไทยยังตกอยู่ภายใต้อิทธิพลต่างประเทศ จึงกลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้นักเล่นกลุ่มต่าง ๆ ตั้งป้อมขายเมื่อดัชนีวิ่งเข้าใกล้ 1,650 จุดไงล่ะคะ * ฉะนั้นการที่ดัชนีขึ้นไปถึง 1,626.55 จุด แล้วย่อตัวลงมาปิดที่ 1,616.50 จุด ลบไป 3.52 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.89 หมื่นล้านบาท ก็เป็นเพียงการลองเชิงธรรมดา ๆ ไม่มีนัยอะไรมากมายนักหรอก! รวมทั้งการกลับเข้ามาไล่หุ้น “น้ำมัน” กับ “ปิโตรฯ” อย่างหนักหน่วง “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องไซเคิลธุรกิจที่กลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง จึงทำให้นักเก็งกำไรกระโจนเข้ามาเล่นตลาดนี้อย่างเต็มตัว เพราะคาดหวังรีเทิร์นในระดับ 4-5% ได้สบาย ๆ พะยะค่ะ * งานนี้ฟันธงได้ทันทีว่า เกมหุ้นต่อจากนี้จะเล่นกัน “เร็วขึ้น แรงขึ้น” อย่างแน่นอน เพราะมีประเด็นให้ลุ้นระทึกมากมาย ไล่เรียงตั้งแต่การกลับลำขายของฝรั่งหัวทอง ผลกระทบจากน้ำท่วมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ผลประกอบการไตรมาส 4 จะฟื้นตัวขนาดไหน (หลังจากเปิดเมือง เปิดประเทศ) หรือแม้กระทั่งแบงก์โฉมใหม่กระโจนเข้ามาเล่นทุกเซกเมนต์การเงิน(ไฟแนนซ์อยู่ยาก) ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยออกได้ทุกหน้านะจะบอกให้ * ด้วยเหตุนี้ถึงอยากเม้าท์เรื่องหุ้น IPO ที่กำลังอยู่ในฟอร์มฮอตหลายตัว และยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับแมงเม่าอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ หลังข้อมูลที่พรายกระซิบไปอ่านมาจากหนังสือชี้ชวนย้ำว่า หุ้นมีโอกาสปั้นกำไรสวย ๆ ในปีหน้า แถมข้อมูลในอดีตก็ยืนยันตรงกันว่า ในช่วงที่เจอโควิดเล่นงานหนัก ๆ ยังโชว์กำไรได้อย่างยอดเยี่ยม จึงกลายเป็นประเด็นหลักที่อยากเม้าท์ถึงเจ้าค่ะ * เฉพาะเดือน ก.ย. มีหุ้นน้องใหม่เข้าเทรด 4 ตัว (เข้าไปแล้ว 2 สิ้นเดือนเข้าอีก 2 ) หรือเฉลี่ยสัปดาห์ละตัว ซึ่งกลายเป็นทางเลือกให้กับรายย่อยอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ จึงกลายเป็นสตอรี่ที่น่าติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะบางตัวที่เข้าเทรดก็โลดแล่นอย่างสวยงาม แต่บางตัวก็เกิดอาการสะดุดชั่วคราวแบบงง ๆ แถมวันพฤหัสฯ ที่กำลังจะถึงนี้ ก็มีหุ้นเข้าเทรดพร้อมกันในวันเดียวถึง 2 ตัว แบบนี้ เดี๊ยนจำเป็นต้องเอ่ยถึงนะจ๊ะ * รายแรกที่ขอเม้าท์ถึงคงเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง และธุรกิจกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น (โควิดมากลายเป็นดี) คงไม่มีใครเกินหน้าเกินตาไปกว่า CPANEL ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ตรงที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ หันมาใช้พื้นผนังสำเร็จรูปของบริษัทมากขึ้น บวกกับสินค้าของบริษัทกำลังเข้ามาเบียดแทรกการก่อสร้างแบบเดิม ๆ จึงเป็นจุดขายที่ทำให้เชื่อว่า ผลงานปีหน้าโตกระหึ่มแน่นอน บวกกับมีการนำเงินไอพีโอไปลงเครื่องจักรใหม่แบบนี้...แวลูเพิ่มขนาดไหน? ต้องถามคุณน้องรูปหล่อ “ชาคริต” ดูจ้าแม่! * รายถัดมาที่ต้องเอ่ยถึงเพราะเชื่อกันว่า UBE จะโชว์การเติบโตเฉลี่ย 30% ให้เห็นเป็นขวัญตาชาวหุ้น บวกกับเที่ยวนี้กลุ่มผู้บริหาร “มาจริง” ไม่ได้ประสงค์จะ “มาเล่น” จึงกลายเป็นจุดเด่นที่ทำให้ผู้คนเม้าท์ถึงหุ้นตัวนี้เยอะเหลือเกิน แถมเมื่อดูผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ตอบโจทย์ทั้งสถานการณ์ “โควิด” และ “น้ำมัน” หรือแม้กระทั่งบางส่วนที่เป็น “อาหาร” จึงกลายเป็นหุ้นที่ต้องตามดูกันยาว ๆ นะจะบอกให้ * อีกรายที่จัดให้เป็นของแถมสำหรับแฟนคลับ เพื่อจะได้มีเวลาศึกษาข้อมูล คงมองไปที่หุ้น SVT ซึ่งกำลังจะเข้าเทรดอังคารหน้ากันสักหน่อย เพราะจุดขายของตู้เวนดิ้งเจ้านี้อยู่ที่การครองพื้นที่ในนิคมฯ มาอย่างยาวนาน และจนบัดนี้ยังไม่มีเจ้าไหนเจาะตลาดดังกล่าวเข้า บวกกับยังมีแผนเพิ่มจำนวนตู้เป็น 2 หมื่นตู้ในปี 2566 จากเดิมมีแค่ 1.50 หมื่นตู้ จึงกลายเป็นหุ้นทรงสวยที่หลายคนเม้าท์ถึงเยอะ (รุ่นพี่ที่เข้าเทรดก่อนหน้า ล้วนโชว์ฟอร์มสวยทุกราย) นะจ๊ะ * วกกลับมาดูหุ้นที่เข้าเทรดในเดือน ก.ย. ก่อนหน้าอย่าง CV กับ BBIK กันสักหน่อยดีกว่า โดยเฉพาะรายแรกที่โรยราลงเรื่อย ๆ ทั้งที่ผลงานก็อยู่ในเกณฑ์ดีนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องต้องให้เวลานักลงทุนทำความเข้าใจอีกระยะหนึ่ง บวกกับการมีประธานบอร์ดที่ชื่อ “ประเสริฐ” (อดีตซีอีโอ ปตท.) น่าจะเป็นเครื่องการันตีคุณภาพว่า เดี๋ยวมีของดีมาโชว์ให้เห็นแน่นอน...คล้ายกับการวิ่งระเบิดระเบ้อของหุ้น BBIK ส่วนหนึ่งก็มาจากธุรกิจเกี่ยวข้องกับโลกยุคใหม่ และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ผสานกับประธานบอร์ดที่นั่งก็ชื่อ “ธนา” เสียด้วย! จึงกลายเป็นช็อตที่เล่นกันยาว ๆ ได้อย่างแน่นอน..ถ้าคิดไม่ออกให้ดูวันที่ SCB ไลฟ์สดแถลงยุทธศาสตร์องค์กร มันสะเทือนเลื่อนลั่นแผ่นดิน และเกี่ยวโยงกับหุ้นตัวนี้ขนาดไหน?..ลองไปคิดดูเจ้าค่ะ