ชุณห์ โภไคศวรรย์

นายชุณห์ โภไคศวรรย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวางแผนองค์กร และนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 28 ส.ค.66 ว่าแนวโน้มครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนักท่องเที่ยวเข้ามา และการบริโภคในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ไตรมาส 3/2566 โลวซีซั่น และไตรมาส 4/66 รับไฮซีซั่น คาดว่าจะมีสินค้านำเข้าสูงขึ้น โดยบริษัทมั่นใจรายได้ปี 66 วางเป้าไว้มากกว่า 20% ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเปิดร้านโมชิ 13 สาขา ตามไฮเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า รวมถึงจำนวนเฉพาะบางตัวด้วยสถานที่ หลังครึ่งปีแรกเปิดไปแล้วทั้งหมด 7 สาขา คาดว่าจะเปิดอย่างน้อย 20 สาขาของทุกปี มั่นใจทำได้ตามเป้าหมาย โดยช่วงไตรมาส 3/2566 เดือนกรกฎาคม 66 บริษัทมีแผนแนะนำเปิดสาขาเพิ่มเติมแบรนด์ Garlic จะมีเปิดอีก 2 สาขา อีกทั้งมีการทำกิจกรรมอีเว้นท์อย่าง คอนเสิร์ตพร้อมดึง นักร้องบิวกิ้น รวมถึงงานกิจกรรมตามเทศกาลต่างๆ แต่ละช่วง และจะเริ่มเห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งจะออกมาเป็นกลุ่มสินค้าใหม่ และมีคอลเลคชั่นใหม่ที่มีตัวไลเซนส์ออกมา รวมถึงจะเปิดตัวการ์ตูนลิขสิทธิ์ใหม่คอลเลกชั่น พร้อมอยู่ระหว่างเพิ่มสัดส่วนสินค้าผสมเพื่อเน้นอัตรากำไรสูงสินค้า การปรับตัวผลิตภัณฑ์หลากหลาย สำหรับเงินลงทุนในปี 66 วางไว้อยู่ที่ 130 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกใช้ไปแล้ว 40 ล้านบาทจากการเปิดสาขา ส่วนที่เหลือจะใช้ในครึ่งปีหลังเพื่อรองรับในการขยายสาขาเพิ่ม และวางเป้าขยายสาขาอยู่ที่ 125 สาขา ครอบคลุมทั้งหมด 48 จังหวัด ทั้งนี้บริษัทวางเป้า 3 ปี รายได้เติบโต 15-20% โดยตั้งเป้าปี 68 เปิดร้านโมชิอยู่ที่ 165 สาขา โดยมุ่งเน้นตลาดต่างประเทศและในประเทศทั้งนี้บริษัทมองหาโอกาสอยู่ตลอดเวลา ซึ่งปัจจุบันก็มีการปรึกษาพูดคุยกับพาร์ทเนอร์ที่จะเข้ามา ขณะที่ความสามารถในการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิในปี 2566 นั้น บริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรให้อยู่ในระดับที่ดี ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง และนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน นอกจากนี้การขยายสาขาที่เป็นสาขาค้าปลีกอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้อัตรากำไรโดยรวมปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย สำหรับการศึกษาดีล M&A หรือ JV หรือ Synergy ใหม่ๆ เพิ่มเติมนั้น ปัจจุบันบริษัทอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ หากมีความคืบหน้าที่ชัดเจนจะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทราบด้วยทั่วกัน อนึ่ง ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 595.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.8%เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 429.32 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิทำได้ 82.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 58.71 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,161.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 793.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิทำได้ 168.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 87.61 ล้านบาท