ซีจีเอส อินเตอร์ เนชั่นแนล

บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ระบุว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงมาปิดในแดนลบ หลังข้อมูลเศรษฐกิจที่เปิดเผยออกมาสดใส สร้างความกังวลให้ตลาดว่า Fed อาจชะลอการลดอัตราดอกเบี้ย โดยเมื่อวานนี้ (7 ม.ค.) รายงานตัวเลขดัชนี PMI ภาคการบริการเดือนธ.ค. จาก ISM ขยายตัว 54.1 สูงกว่าตลาดคาดที่ 53.5 (vs. เดือนพ.ย. 52.1) และ ตำแหน่งว่างงานเปิดใหม่จาก JOLTS เดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 2.59 แสนตำแหน่ง สู่ระดับ 8.1 ล้านตำแหน่ง สูงกว่าตลาดคาดที่ 7.73 ล้านตำแหน่ง กอปรกับความกังวลว่าแผนการเก็บภาษีใหม่ของรัฐบาลใหม่สหรัฐอาจทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 7bp สู่ระดับ 4.69% และแตะสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 4.7% กดดันตลาด นักลงทุนยังขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มเทคฯ ขนาดใหญ่ (Nvidia -6.2%, Meta Platforms -2.0%,) หลังปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบ จากแรงกดดันของบอนด์ยีลด์อังกฤษ 30 ปีที่พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน สู่ระดับ 5.25% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 1998 หลังเงินเฟ้อในอังกฤษยังมีแนวโน้มสูงกว่าระดับเป้าหมายของ BoE ที่ 2% ส่งผลให้ตลาดคาดว่า BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 50bp ในปีนี้ สวนทางกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปิดในแดนบวก หลังตลาดยังคงให้น้ำหนักที่ ECB มีแนวโน้มจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุม 30 ม.ค. นี้ แม้ว่ารายงานตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนเดือนธ.ค. จะขยายตัว 2.4% จากงวดเดียวของปีก่อน สอดคล้องกับที่ตลาดคาด (vs. เดือนพ.ย. 2.2%) ด้านราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดบวกกว่า 1% ขานรับแนวโน้มที่ชาติตะวันตกจะใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากอิหร่านและรัสเซีย รวมถึงความคาดหวังของตลาดต่ออุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มขึ้นในจีน คืนนี้ติดตามรายงานตัวเลขสินค้าคงคลังน้ำมันดิบจาก EIA ราคาทองคำปิดบวกเช่นกัน (เพิ่มขึ้น 0.7%) หลังธนาคารกลางจีน (PBOC) เข้าซื้อทองคำเข้าทุนสำรองเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ส่งผลให้ตลาดคาดหวังว่าธนาคารกลางอื่นๆ อาจจะกลับมาซื้อทองคำตามจีน วันนี้ ติดตามการเปิดตัวเลขการเปลี่ยนแปลงการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมจาก ADP เดือนธ.ค. และ จำนวนคนยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ของสหรัฐ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันพรุ่งนี้ (9 ม.ค.) เนื่องในโอกาสวันไว้ทุกข์แห่งชาติเพื่อเป็นเกียรติแก่อดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ อีกทั้ง คาดว่า SET Index จะแกว่งผันผวนบริเวณ 1,375-1,400 จุด และ ลุ้นทดสอบบริเวณ 1,400 จุด อย่างไรก็ตาม ระวังแรงขาย Take Profit หลังดัชนีปรับตัวขึ้นมากว่า 18 จุดวานนี้ และ อาจมีแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่ง รวมถึงบอนด์ยีลด์สหรัฐที่สูง นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงติดตามอดีตนายกฯ ทักษิณ สัมมนางานข่าวหุ้นในสัปดาห์หน้า (13 ม.ค.68) ส่วนหุ้นแนะนำ ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ซึ่งจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่โดดเด่นที่สุดสำหรับปี 68 เพราะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนอกจากจะทำให้ความต้องการสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยลดดอกเบี้ยจ่ายของ CRC อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีผลประกอบการแข็งแกร่ง ส่วนสัญญาณเทคนิค (Take profit ที่ 35.00 บาท และ Stop loss ที่ 33.75 บาท) บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC คาดว่าน่าจะรายงานค่าการกลั่นน้ำมันดิบในตลาดที่แข็งแกร่งขึ้นเป็น 4.9 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในปี 68 vs. 4.1 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในปี 67 เมื่อกลับมาใช้ระบบจอดเรือแบบจุดเดียวอีกครั้ง ในกรณีที่ไม่มีการใช้จ่ายลงทุนจำนวนมาก โดยคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลที่แข็งแกร่งที่ 5.2% ในปี 68 และ 7.0% ในปี 69 ส่วนสัญญาณเทคนิค (Take profit ที่ 6.65 บาท และ Stop loss ที่ 6.25 บาท