ซีพี กรุ๊ป

ยังไม่ทันได้คำตอบ...กับกรณีสำนักข่าวต่างประเทศประโคมข่าวว่า ซีพี กรุ๊ป เตรียมนำธุรกิจเมล็ดพันธุ์และอาหารสัตว์เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปีหน้า...โดยเป็นการนำธุรกิจอาหารสัตว์จากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF และธุรกิจเมล็ดพันธุ์จากบริษัท เจียไต๋ มารวมกัน ซึ่งประเมินกันว่า จะระดมทุนได้มากถึง 34,000 ล้านบาท... เรื่องนี้จริงเท็จประการใด คงต้องรอการคอนเฟิร์มจากปากผู้บริหารกลุ่มซีพี... แต่ที่ไปก่อนไม่รอแล้วนะ...เห็นจะเป็นการที่ CPF แจ้งข่าวผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมจะหย่านมลูกที่ชื่อว่า บริษัท ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ด โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CPFGS เดิมรู้จักในชื่อบริษัท ซีพีเอฟ เทรดดิ้ง จํากัด เข้าตลาดฯ ภายในปีนี้... เรียกว่า ปาดหน้าเค้กไปก่อนเห็น ๆ... ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์อะไรกับการที่กลุ่มซีพีทยอยผ่องถ่ายขายหุ้นเดิมของบริษัทลูก ๆ อุ๊ย...ดันลูกเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ...เป็นการวางหมากทางธุรกิจของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์อยู่แล้ว... และคงไม่มีใครติดใจกับตัวธุรกิจของ CPFGS ซึ่งแบ่งเป็น 1) ธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปในประเทศไทยและต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ ได้แก่ เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อเป็ด ไข่ไก่ เนื้อกุ้ง และเนื้อปลา ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ ไส้กรอก ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุง ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน 2) ธุรกิจร้านอาหาร ทั้งร้านไก่ย่างห้าดาว (Five Star) ร้านเชสเตอร์ (Chester’s) ศูนย์อาหารฟู้ดเวิลด์ การให้บริการจัดเลี้ยง และร้านอาหารอื่น ๆ และ 3) ผลิตภัณฑ์ขนมสำหรับสัตว์เลี้ยง ภายใต้ตราสินค้า Jerhigh และ Jinny ภาพรวมก็เป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตอยู่นะ... แต่จุดที่ถูกหยิบมาซุบซิบนินทา คงเป็นโครงสร้างไอพีโอของ CPFGS นี่แหละ เพราะเอาเข้าจริง หุ้นไอพีโอที่จะเสนอขายจำนวน 500.01 ล้านหุ้นนั้น เป็นหุ้นเก่าของกลุ่มซีพีกว่า 90% เชียวนะ แบ่งเป็นหุ้นที่ CPF ถือ 316.65 ล้านหุ้น และบริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จํากัด หรือ CPM (เป็นลูกอีกคนของ CPF) ถือ 116.65 ล้านหุ้น แค่สองก้อนนี้รวมกันก็ปาไป 433.30 ล้านหุ้นแล้วนะ... เหลือหุ้นเพิ่มทุนใหม่ที่จะขายไอพีโอจริง ๆ แค่หางอึ่ง 66.70 ล้านหุ้นเท่านั้นเอง... ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า การเข้าตลาดฯ ของ CPFGS เพื่อต้องการผ่องถ่ายหุ้นเก่าออกมาขายป๊ะเนี่ย..? เพราะดู ๆ ไปแล้ว ไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวบริษัทมากนัก...แต่เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นใหญ่ซะมากกว่าล่ะมั้ง...น่าอิจฉาจัง โอเค...การขายไอพีโอครั้งนี้ เป็นการปลดล็อกมูลค่าเพิ่มของ CPFGS ซึ่งเดิมอยู่นอกตลาดฯ ไม่เฉิดฉายเท่าที่ควร พอเข้าตลาดฯ มาแล้วก็จะได้เฉิดฉายมากขึ้น...อันนี้ไม่เถียง ขณะที่ต้นทุนของแม่ ก็คงเป็นราคาพาร์ ซึ่งจะฟาดกำไรไปเท่าไหร่ ต้องดูจากราคาไอพีโอ (ตอนนี้ยังไม่ได้กำหนด) แต่ดูทรงแล้ว คงได้ไปหลายกระบุงเลยแหละ ว่าแต่กำไรจากการขายหุ้นเก่าครั้งนี้ CPF จะเอาไปทำอิหยัง..? ชักอยากรู้แล้วสิ ถ้าดูกระแสเงินสดก็ไม่ได้พร่องเท่าไหร่ แถมช่วงนี้ก็ไม่มีโครงการลงทุนใหม่ ๆ ด้วยนะ แต่เอ๊ะ...ไปส่องงบการเงินกลับมีส่วนของหนี้สินระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีปาไป 66,117.10 ล้านบาท...เป็นไปได้ว่า เม็ดเงินส่วนหนึ่งจะเอาไปชำระหนี้อ๊ะป่าว..? ถ้าเป็นไปตามนี้ ก็ไม่แคล้ว CPF ขายหุ้น...ไปเปลื้องหนี้น่ะสิ..!! แหม๊...เกมนี้ของเจ้าสัวนี่ขั้นเทพจริง ๆ... แต่อย่าลืมนะว่าไอพีโอหลายตัวที่เดินทางสายนี้ สุดท้ายไม่สวยสักราย ไม่อยากให้ CPFGS ต้องถูกจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ตลาดทุน ว่าเป็นไอพีโอสยองของนักลงทุนน่ะสิ... เดี๋ยวจะเสียชื่อเจ้าสัวซีพีเอาได้นะ... ...อิ อิ อิ...