ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (26 ต.ค. 2564) ราคาหุ้น บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO ณ เวลา 10:20 น. อยู่ที่ระดับ 50.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 3.09% โดยทำจุดสูงสุดที่ 50.75 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 48.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 115.16 ล้านบาท โดยราคาหุ้น MAKRO ที่ปรับตัวขึ้นมาบนกระดานนั้นเนื่องมาจาก MAKRO เปิดเผยว่า บริษัทฯ รับโอนกิจการทั้งหมดของ บริษัท ซี.พี.รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด (CPRH) เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2564 โดยได้รับโอนหุ้นทั้งหมดใน บริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (CPRD) ที่ CPRH ถือจำนวน 1,994,745,742 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 99.99% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของ CPRD รวมถึงรับโอนทรัพย์สิน หนี้สิน สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดทั้งหมดของ CPRH ที่มีอยู่ ณ วันที่โอนกิจการทั้งหมด ทั้งนี้ กิจการทั้งหมดของ CPRH ที่บริษัทได้รับโอนมาดังกล่าวมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 217,949,072,250 บาท ขณะเดียวกัน บริษัทได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 5,010,323,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 43.50 บาท เพื่อใช้ชำระเป็นค่าตอบแทนการรับโอนกิจการทั้งหมดของ CPRH แทนการชำระด้วยเงินสด (Payment in Kind) ให้แก่ CPRH ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น จำนวน 217,949,072,250 บาท ซึ่งจำนวนทุนชำระแล้วที่บริษัทจะต้องจดทะเบียนเพิ่มทุนเพื่อให้สอดคล้องกับการจัดสรรหุ้นดังกล่าว เท่ากับ 2,505,161,750 บาท สำหรับหน้าที่ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด (CPH) และ บริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด (CPM) ในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดในบริษัทฯ อนึ่ง ภายใต้ธุรกรรมการรับโอนกิจการทั้งหมด CPRH ได้ดำเนินการจดทะเบียนเลิกบริษัท และเริ่มต้นการชำระบัญชีแล้วในวันที่ 25 ต.ค.64 ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดของ CPRH ที่เหลืออยู่ รวมถึงหุ้นในบริษัทที่ CPRH ได้รับเป็นค่าตอบแทนการโอนกิจการทั้งหมดได้ถูกส่งมอบให้แก่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, CPH และ CPM ตามสัดส่วนการถือหุ้น โดย CPALL ได้รับหุ้นใน MAKRO เป็นจำนวน 2,004,129,400 หุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 20.43%, CPH ได้รับหุ้นใน MAKRO เป็นจำนวน 2,004,129,400 หุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 20.43% และ CPM ได้รับหุ้นใน MAKRO เป็นจำนวน 1,002,064,700 หุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 10.21% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดในบริษัทฯ ถือเป็นการได้มาซึ่งหุ้นในกิจการที่ข้ามจุดที่จะต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ (Mandatory Tender Offer) โดย CPH จะมีสัดส่วนการถือหุ้นโดยตรงในบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก 0.00% เป็น 20.43% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดในบริษัท ซึ่งเมื่อรวมกับสัดส่วนการถือหุ้นของบุคคลของ CPH ได้แก่ CPALL และ CPM ที่จำนวน 65.97% และ 10.21% ตามลำดับ ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมของ CPH ในบริษัทฯ รวมเป็น 96.61% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดในบริษัทฯ ทั้งนี้ CPM จะมีสัดส่วนการถือหุ้นโดยตรงในบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 0.00% เป็น 10.21% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดในบริษัทฯ ซึ่งเมื่อรวมกับสัดส่วนการถือหุ้นของบุคคลของ CPM ได้แก่ CPALL ที่จำนวน 65.97% ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมของ CPM ในบริษัทฯ รวมเป็น 76.19% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดในบริษัทฯ อย่างไรก็ดี CPH และ CPM จะยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตามหลักเกณฑ์ของประกาศ ทจ. 12/2554 ในวันที่ 26 ต.ค.64 ซึ่งบริษัทฯ จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการได้รับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวจาก CPH และ CPM ต่อไป