ณัชชา ผ่องไพบูลย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 18 กรกฎาคม 2566 นายชัยพิพัฒน์ แก้วไตรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA พร้อมนางสาวณัชชา ผ่องไพบูลย์ ทนายความ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ บริษัท ทันหุ้น จำกัด (“ทันหุ้น”) และพวก นายชัยพิพัฒน์ กล่าวว่า ในการยื่นร้องดังกล่าวเป็นการยื่นฟ้องตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) การนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางหนังสือพิมพ์ "ทันหุ้น" และสื่อในเครือได้มีการพาดหัวข่าวเกี่ยวกับหุ้นบริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL ที่ได้มีการอ้างอิงข้อความของ นายพงษ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี หนึ่งในผู้ถือหุ้นดั้งเดิมของ “TPL” หากแต่เติมข้อความอันเป็นเท็จ และบิดเบือนจากความจริง โดยใช้คำว่า "TPL อัปยศ" ผลดังกล่าวจนทำให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่อนักลงทุนและผู้ถือหุ้น TPL กว่า 5,000 ราย รวมถึงบริษัท AQUA ที่เป็นผู้ถือหุ้นของ TPL จึงได้มีการตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูล พบว่านายพงษ์ศักดิ์ ไม่ได้มีการให้ข้อมูลใดๆที่กล่าวร้าย หรือกล่าวมุมใดๆที่ทำให้ตีความไปในทางร้าย จึงได้มาร้องทุกข์ในวันนี้ ซึ่งการนำเสนอข่าวของทันหุ้นดังกล่าว ทำให้บริษัท AQUA ได้รับผลกระทบ ทั้งทางด้านการลงทุนและชื่อเสียง ซึ่งปัจจุบัน บริษัท AQUA ถือหุ้นใน TPL จำนวนกว่า 140 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นกว่าร้อยละ 26% จึงเป็นเหตุได้มอบอำนาจให้ทนายความเข้าทำการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอท. “วันนี้ บริษัท AQUA ได้เข้าให้ปากคำ อ้างอิงถึงพยานเอกสาร พยานบุคคล บันทึกแชทไลน์ รวมถึงใบเสนอราคาโฆษณาที่อาจเชื่อได้ว่าเป็นมูลเหตุจูงใจการกระทำความผิดต่อพนักงานสอบสวน โดยคาดว่าพนักงานสอบสวนจะเริ่มการสืบสวนสอบสวนผู้ถูกล่าวหา รวมถึงเรียกพยานผู้เกี่ยวข้องทุกรายเข้ามาให้ปากคำในลำดับต่อไป ซึ่งทางบริษัท AQUA พร้อมดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด เพื่อให้กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่าง ที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นนักลงทุนที่สุจริตกล้าลุกขึ้นสู้เพื่อรักษาสิทธิและเสรีภาพ เพื่อยกระดับตลาดทุนไทย และวงการสื่อมวลชนไทย” นายชัยพิพัฒน์ กล่าว นายชัยพิพัฒน์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังมีข้อมูลหลักฐานอีกพอสมควร เช่น คลิปเสียงบทสนทนา ของผู้บริหารระดับสูงของ บ.ทันหุ้น แต่เรายังอยู่ระหว่างการตัดสินใจส่งมอบให้พนักงานสอบสวน นายชัยพิพัฒน์ ยังได้ย้ำว่า การดำเนินคดีดังกล่าวต้องการให้เป็นบรรทัดฐานของสื่อ ซึ่งเชื่อว่าสื่อมีจรรยาบรรณของสื่อ มีการเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา สามารถวิพากย์วิจารณ์ได้โดยใช้ข้อมูลจริงมาใช้ ไม่ใช่ใช้ข้อมูลที่บิดเบือนมานำเสนอ เพื่อสร้างความเข้าใจผิดและส่งผลกระทบต่อบริษัท นักผู้ลงทุน และผู้ถือหุ้นของ TPL ด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่อยากประเมินมูลค่าความเสียหาย แต่อยากให้เป็นกรณีตัวอย่างในกรณีที่มีการนำเสนอข่าวให้ข้อมูลที่บิดเบือนไปก็อย่างให้ลุกขึ้นมาสู้เพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพของตนเอง สำหรับการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ปอท. รับเรื่องแล้ว และจะมีการเรียกมาสอบปากคำต่อไป และมีการหลักฐานเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว ส่วนจะมีการตกลงกับคู่กรณีโดยตรงหรือไม่นั้น คงไม่ตกลงเพราะมีการกระทำความผิดไปแล้วแก้ไขไม่ได้ กรณี พรบ.คอมพิวเตอร์ ถือเป็นคดีอาญาแผ่นดินยอมความไม่ได้คงจะต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด "บริษัทเชื่อมั่นในสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวว่าจะมีการนำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา อาชีพสื่อเป็นอาชีพที่น่าเคารพและมีเกียรติ แต่ไม่ใช่บางครั้งการที่ไม่สนับสนุนการลงโฆษณาใดๆจะมีการเสนอข่าวในมุมที่บิดเบือนออกไป สร้างความเสียหายให้แก่ผู้อื่น" นายชัยพิพัฒน์ กล่าว ด้าน นางสาวณัชชา กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่มาที่ไปของกรณีดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนขอให้เป็นขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นได้มีการให้การเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวแล้วรายละเอียดขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการทางกฎหมายก่อน ส่วนการประเมินความเสียหายมีการประเมินภายในแล้ว แต่ในการนำเสนอข้อมูลขณะนี้ยังอยากให้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนไปก่อน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ที่ถูกกล่าวหาและอาจอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดีทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาหลายรายประกอบด้วย 1. บริษัท ทันหุ้น จำกัด (“ทันหุ้น”) 2. นางสาวลลนา ศิริจรรยากุล กรรมการบริษัท 3. นางสาวศรวณีย์ ศิริจรรยากุล กรรมการบริษัท 4. นายบุญมี อ่อนน้อม บรรณาธิการบริหาร 5. นายเฉลิมชัย ศิรินันทวิทยา บรรณาธิการออนไลน์ และผู้ดำเนินรายการทีวีออนไลน์ 6. นางพุทธิธาดา ศิรินันทวิทยา บก.MAI และรองบรรณาธิการ 7. นางสาวณัฎฐ์ชญา ปุริมปรัชญ์ภัทร นักข่าว