ดร.พรลภัส ณ ลำพูน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (18 พ.ค.2565) ราคาหุ้นบริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IND ณ เวลา 11:37 น. อยู่ที่ระดับ 2.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท หรือ 7.14% โดยทำจุดสูงสุดที่ 2.44บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 2.26 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 109.41 ล้านบาท โดย IND รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2565 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2565 ดังนี้ ดร.พรลภัส ณ ลำพูน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IND เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2565 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565) ของบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิเท่ากับ 13.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.59 ล้านบาท หรือคิดเป็น 255.25% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่ขาดทุนสุทธิ 8.85 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการให้บริการจำนวน 153.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 77.12 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 101.35% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 76.09 ล้านบาท โดยสาเหตุสำคัญที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 พลิกกลับมาเป็นบวกได้ เป็นผลมาจากการส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ เช่น ออกแบบพร้อมก่อสร้าง - ระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน สนามบินอู่ตะเภา, ออกแบบและก่อสร้าง ถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน T-2306 และมีงานที่ส่งมอบให้แก่ลูกค้าเป็นที่เรียบร้อย เช่น งานออกแบบพร้อมก่อสร้างสถานีบริการเติมน้ำมันท่าอากาศยานดอนเมือง, งานออกแบบพร้อมก่อสร้างคลังน้ำมันจังหวัดลำปาง เป็นต้น นอกจากนี้ในไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ เข้ารับงานในส่วนของงานออกแบบเบื้องต้นและออกแบบรายละเอียดคิดเป็นมูลค่างาน 83.74 ล้านบาท รวมทั้งงานบริหารงานโครงการและควบคุมงานก่อสร้างคิดเป็นมูลค่างาน 55.70 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างในส่วนของภาครัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดีขึ้น โดยรัฐบาลได้เร่งรัดให้มีงานโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสเข้าร่วมประมูลโครงการออกแบบและก่อสร้างใหม่ๆ เพิ่มอีกหลายโครงการ อีกทั้งทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 2,007.01 ล้านบาท (ณ วันที่ 20 เม.ย.2565) ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20-25% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา “ผลประกอบการไตรมาส1/2565 ของ IND ถือว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ และออกมาเป็นที่น่าพอใจ เพราะสามารถเติบโตทั้งรายได้และกำไร เป็นผลมาจากบริษัทฯ ได้รับงานใหม่ๆเข้ามาตั้งแต่ต้นปี2565 ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า IND มีศักยภาพในการบริหารจัดการและมีประสบการณ์ในธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ ส่งผลทำให้มีมูลค่างานในมือเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ยังคงเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ เพื่อผลักดันให้ผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้” ดร.พรลภัส กล่าว