ดิศักดิ์ สุขุมวิทยา

*ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ผ่านแนวต้านสำคัญ 1,600 จุด ขึ้นมาได้เหนือคาด แม้จะเผชิญกับแรงขายทำกำไรออกมาหลังจากดัชนีวิ่งปิดบวกมาต่อเนื่อง 4 วันติดต่อกันแล้ว มีแรงซื้อจากหุ้นกลุ่มสื่อสาร เช่น INTUCH และ ADVANC รวมถึงกลุ่มท่องเที่ยวรับเปิดเมือง คือ AOT และหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี PTTGC *มีประเด็นน่าสนใจ เพราะดัชนีที่ปิดบวกวานนี้ มาจากแรงซื้อของนักลงทุนรายย่อย ส่วนต่างชาติ และนักลงทุนสถาบันได้ขายสุทธิ หลังจากหลายวันก่อนหน้านี้ได้ซื้อมาโดยตลอด รายย่อยของตลาดหุ้นไทยธรรมดาซะที่ไหนล่ะ ช่วยกันซื้อ ช่วยกันดัน ให้ดัชนีปิดบวกด้วย ล่าสุด สัดส่วนการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 55% ของมูลค่าการซื้อขายรวม สอดคล้องกับตัวเลขที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า มีนักลงทุนรายย่อยเข้ามาเปิดบัญชีเทรดหุ้นนับจากต้นปีมากกว่า 1 ล้านบัญชีแล้ว ถือว่าเป็นจำนวนบัญชีที่เพิ่มขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ *แบงก์กสิกรไทย KBANK ของเสี่ยปั้น บัณฑูร ล่ำซำ ราคาหุ้นปรับลงจากแรงขายทำกำไร ไม่ใช่เรื่องแปลอะไร เพราะต่างชาติขนเงินเข้ามาซื้อตั้งแต่ราคา 102.00 บาท ดึงขึ้นมาบริเวณ 121.00 บาท ก็ต้องขายออก เก็บเงินเข้ากระเป๋าระหว่างทางไปก่อน แต่แนวโน้มราคาหุ้นยังเป็นขาขึ้นได้อีก มีแนวต้านถัดไป 123.50 บาท ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3/2564 กำไรยังเติบโตจากไตรมาส 3/2563 ได้ เพราะปีที่แล้วฐานต่ำไปหน่อย จากการตั้งสำรองฯ สูง ทำให้ปีนี้สบายตัวกว่าปีก่อน รับกำไรไปแบบเนื้อ ๆ *กลุ่มเจมาร์ท ของอเสี่ยตุ้ม ดิศักดิ์ สุขุมวิทยา น่าจะแจ้งผลการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับกลุ่มบีทีเอสในช่วงเช้าวันนี้ (27 ส.ค.) หลังมีการประชุมบอร์ดกันเมื่อวานนี้ แม้ว่าจะมีการคำนวณเบื้องต้นว่า ราคาหุ้นอาจจะได้ลูท 22-23% จากการออกหุ้นเพิ่มทุนให้กับบีทีเอสราว ๆ 300 ล้านหุ้น แต่หากเทียบกับโอกาสทางธุรกิจที่มากขึ้น และ D/E ลดต่ำลงเหลือเพียง 1 เท่า จากการได้เงินมากว่า 1 หมื่นล้านบาท แล้วนำไปชำระหนี้ ดีดลูกคิดกันออกมาแล้ว ผลเชิงบวกหรือโอกาสทางธุรกิจน่าจะมีมูลค่ามากกว่าหุ้นที่จะได้ลูทลงไป ส่วนเรื่องราคาเป้าหมาย จะต้องรอสูตรเพิ่มทุนให้แน่ชัด เชื่อว่า นักวิเคราะห์จะคำนวณราคาเป้าหมายใหม่ทั้ง JMART BTS รวมถึงบรรดาบริษัทลูกของทั้ง 2 กลุ่ม กันออกมาได้ *ประชุมบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ ล่าสุด มีมติแต่งตั้ง “ปวีณา ศรีโพธิ์ทอง” เป็นรองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกำกับตลาด ดูแลกลุ่มงานกำกับบริษัทจดทะเบียนและนโยบายกำกับตลาด และกลุ่มงานกำกับสมาชิกและการซื้อขาย เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจที่ขยายตัวและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีผลตั้งแต่ 1 ก.ย. 64 โดย ปวีณา ร่วมงานกับ ตลท.ตั้งแต่ปี 2534 มีประสบการณ์ทำงานในหลายด้าน อาทิ ด้านนโยบายกำกับตลาด ด้านการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน ด้านบริษัทสมาชิก และด้านผู้ออกหลักทรัพย์ จบปริญญาตรีด้าน Statistics จากจุฬาฯ และปริญญาโทด้าน Financial Management นิด้า *เงินติดล้อ TIDLOR ราคาหุ้นยังคงไม่ไปไหน อยู่บริเวณ 38.00 บาท บวก/ลบ หลังจากถูกนักลงทุนสถาบันค่อยๆ ขายออกมาต่อเนื่อง และหากเทียบ P/E กับหุ้นในกลุ่มฯ ด้วยกัน เช่น MTC SAWAD KTC ค่อนข้างจะสูงกว่าชาวบ้านเขา ก็คงต้องรอผลประกอบการไตรมาส และ ออกมา ช่วยกดพี/อี ลงมา หรือจะต้องดูว่า จะมีการนำสำรองส่วนเกินมาเป็นกำไรได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงผลประกอบการ และหากเห็นพัฒนาการชัดเจน น่าจะเริ่มเห็นการทยอยซื้อกลับของนักลงทุนสถาบัน