ตระกูลเจมาร์ท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 พ.ย. 65) หุ้นกลุ่ม เจ มาร์ท ราคาหุ้นบนกระดานมีการดีดกลับ ณ เวลา 11:25 น. นำโดย บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 44.00 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 1.73% สูงสุดที่ระดับ 44.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 43.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 57.53 ล้านบาท ส่วนบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 63.25 บาท บวก 2.00 บาท หรือ 3.27% สูงสุดที่ระดับ 63.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 61.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 255.36 ล้านบาท ขณะที่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 34.25 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.48% สูงสุดที่ระดับ 34.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 34.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 78.13 ล้านบาท ด้วยราคาหุ้น JMART, JMT, SINGER เกิดการดีดกลับหลังจากวานนี้ปรับตัวลงแรงจากข่าวลือว่ามาจากนักลงทุนรายใหญ่ที่อาจเป็นนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะกองทุน ที่เข้ามาถือหุ้นแล้วเกิดความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของทั้ง 3 หุ้นว่าไตรมาส 3/2565 จะออกมาลดลงหรือไม่เป็นไปตามคาดการณ์ ล่าสุด นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMART กล่าวกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ไม่ทราบสาเหตุของราคาหุ้นของกลุ่มฯ ที่ร่วงลง ส่วนแนวโน้มผลประกอบการของทั้งกลุ่มฯ นั้น คือ JMART, JMT และ SINGER ยังมีความมั่นใจว่าจะออกมาดี และเป็นไปตามที่คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้ “ใครไม่มั่นใจไม่เป็นไร.....อีกไม่กี่วันเราจะแจ้งผลประกอบการออกมาแล้ว” นายอดิศักด์ กล่าว ก่อนหน้านี้ นายอดิศักดิ์ กล่าวถึงทิศทางธุรกิจของกลุ่มฯ ในปี 2565 ด้วยการแสดงความมั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ จากพลังของกลุ่มที่ทำ Synergy ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 7 เริ่มเห็นภาพชัดเจน สนับสนุนในช่วงครึ่งปีแรกทุกบริษัทในกลุ่มเติบโต โดยแนวโน้มไตรมาส 3/2565 คาดว่าจะดีกว่าไตรมาส 2/2565 จากผลงานของบริษัทในกลุ่มที่แข็งแรงขึ้น และการขยายไปยัง Ecosystem นอกกลุ่ม ซึ่งในแง่ของการลงทุนและมองหาพันธมิตรรายใหม่ๆ ของกลุ่มบริษัทตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ได้แก่ การเข้าไปลงทุนของ JMART ในบริษัท JD Group เพื่อขยายพอร์ตกลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยสินเชื่อเงินผ่อน เจาะฐานต่างจังหวัด รวมทั้ง JGS Synergy Power บริษัทร่วมทุนระหว่าง JMART SINGER และ GUNKUL เพื่อนำ Solar Rooftop, EV Charger และ Solar Rooftop พร้อมสินเชื่อ สู่ช่องทางค้าปลีกทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีงานในมือที่อยู่ระหว่างรอติดตั้ง คาดสนับสนุนผลการดำเนินงานเชิงบวกในปีนี้ นอกจากนี้ การจัดตั้งบริษัทร่วมทุน JK AMC เพื่อบริหารหนี้ระหว่าง JMT และ KBANK จะสนับสนุนให้ JMART รักษาการเติบโตของกำไรในระดับ 50% ต่อเนื่องใน 3 ปีจากนี้ ได้ตามเป้าหมาย (ปี 2565-2567) ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า คงคำแนะนำ “ซื้อ” JMART ด้วยมูลค่าพื้นฐานปี 2565 ที่ 63 บาท อิงจากมูลค่าพื้นฐาน JMT ที่ 80 บาท และ SINGER ที่ 57.3 บาท โดยมีปัจจัยหนุนจากกำไรปี 2565-2566 เติบโตได้เฉลี่ยสูงถึง 38% ประกอบกับกำไรยังมีศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องไปในระยะยาว จากการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และยังมีอัพไซด์ที่ยังไม่รวมในประมาณการจากหลายโครงการ เช่น ธุรกิจการขายแผงโซลาร์รูฟท็อป, การร่วมทุนกับผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้าท้องถิ่นตามหัวเมืองต่างๆ (JayDee) และความร่วมมือกับ BRR ขณะที่ นายอรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย หรือ “บอย ท่าพระจันทร์” ได้โพสต์เฟซบุ๊กวานนี้ พร้อมโชว์ข้อมูลหุ้นในพอร์ต คือ JMT จากเดิมถืออยู่ 1.2 แสนหุ้น ล่าสุดซื้อเพิ่มเป็น 3 แสนหุ้น พร้อมกับเข้าไปตอบคำถามแฟนคลับรายหนึ่งที่ระบุว่า บอย ท่าพระจันทร์ ถือหุ้น JMT มากกว่า JMART ว่า “ของดี ก็คือของดีครับ”