ตลาดกลางกุ้ง สมุทรสาคร

เปิดประเทศเข้าสู่วันที่ 3 ภาคเอกชนที่ได้รับอานิสงส์จากการปลดล็อกของรัฐบาล ต่างพากันส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวประเทศมีความหวัง เศรษฐกิจพลิกฟื้นได้แน่ มองไปไกลถึงปีหน้าจะมีนักท่องเที่ยวทะลักเข้าประเทศไทยถึง 10 ล้านคน ไม่ผิดที่จะคิดกันไปถึงขนาดนั้น จึงได้บอกไว้ว่าถ้าจะให้เข้าทางความเป็นคนดีของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจที่ชอบสวดมนต์ ก็ต้องช่วยกันภาวนาว่าระหว่างนี้อย่าให้มีเหตุอะไรที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นก็แล้วกัน ไม่ได้แช่ง แต่การระบาดสองระลอกหลังเป็นบทเรียนอันปวดร้าว ตลาดกลางกุ้ง สมุทรสาคร เกิดขึ้นช่วงปลายปีในจังหวะที่รัฐบาลตั้งเป้าจะบูมการท่องเที่ยวภายในประเทศ หวังเม็ดเงินสะพัดสุดท้ายก็รับประทานแห้วไปตามระเบียบ หลังจากนั้นสถานการณ์ดูเหมือนจะกลับมาดีอีกกระทอก แต่ก็เจอกับเคสวีวีไอพีที่สถานบันเทิงย่านทองหล่อ แต่ก็ใจดีสู้เสือปล่อยให้คนไทยไปเที่ยวสงกรานต์ ด้วยสูตรเดิมที่หวังว่าหลังกลับมาสองสัปดาห์ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลง นับตั้งแต่บัดนั้นจนเวลานี้ อย่างที่เห็น การเร่งฉีดวัคซีนให้คนภายในประเทศตัวเลขที่น่ายินดีคือการป่วยหนักและล้มตายลดลงต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญ แต่ตัวเลขทองหล่อยังไม่น่าไว้วางใจ ตรงนี้ที่ต้องระวังเพราะกรณีการพบผู้ป่วยที่เป็นคนไทยด้วยกันเอง ก็ยังสันนิษฐานได้ว่าเกิดจากการไม่ระมัดระวัง ไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐได้ขอความร่วมมืออย่างเต็มที่ เมื่อมีโรงพยาบาลรักษา ระบบสาธารณสุขดูแลได้ ก็ไม่เป็นปัญหา หยวน ๆ ยอม ๆ กันไป แต่หลังการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก แม้ทั้งหมดจะเป็นกลุ่มคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ซึ่งรู้กันดีว่าวัคซีนป้องกันการป่วยรุนแรง ลดอัตราการตาย แต่ไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อ หากมีนักท่องเที่ยวมาติดเชื้อโควิดในไทยกันจำนวนมาก หรือเกิดเป็นคลัสเตอร์จากแหล่งท่องเที่ยวที่เปิดรับคนเหล่านั้นโดยไม่ต้องกักตัว ไม่อยากนึกภาพว่าจะเกิดอะไรขึ้น ความปลอดภัยที่พยายามจะชูเป็นจุดขายจะสลายไปในพริบตา ความเชื่อมั่นทั้งหลายจะหายไปในทันที หากไม่อยากให้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ไม่ต้องขอความร่วมมือจากประชาชน เพราะคนไทยส่วนใหญ่ปฏิบัติตามมาตรการที่ออกมาอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว ภายใต้บรรยากาศของเม็ดเงินที่จะกลับมาต้องไปจับตาติดตามเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ประกอบการเห็นแก่ได้ทั้งหลาย จะมีการปล่อยให้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาสร้างปัญหาเหมือนคราวการระบาดระลอกสองอีกหรือไม่ ถ้าตรงนี้ป้องกันแข็งขันโอกาสที่จะเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดก็น้อยตามไปด้วย หมดห่วงตรงนั้น ก็ยังมีประเด็นที่ต้องห่วงไม่แพ้กันกับพื้นที่ 4 จังหวัด กทม. ภูเก็ต กระบี่ และพังงา ที่เปิดให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้บนเงื่อนไขต้องไม่เกิน 3 ทุ่ม ประสานักดื่มเหล้าเข้าปากแล้วมักจะไหลกันยาวหรือที่เรียกว่าติดลม กรณีนี้อยู่ที่การบังคับใช้กฎหมายต้องชัดเจนเด็ดขาด ฟังจากปากของฝ่ายตำรวจที่จะต้องไปร่วมปฏิบัติตรวจตราร่วมกับข้าราชการฝ่ายอื่น ที่บอกว่าจะใช้ทั้งหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ควบคู่กันไป ความจริงไม่ควรจะเป็นเช่นนั้น เมื่อมีข้อบังคับชัดเจน และก็ได้เห็นแล้วว่าการระบาดที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พบจำนวนไม่น้อยก็เกิดจากคลัสเตอร์ตั้งวงก๊งเหล้า สุมหัวกันดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นี่แหละ ดังนั้นหากมีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามควรต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดเสียก่อน เพื่อให้ทั้งผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการทำตามระเบียบที่มี เวลาเกิดปัญหาจะได้ไม่เป็นภาระกับคนส่วนใหญ่ ถ้าทำกันได้ปฏิบัติตัวกันดี เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่ประเมินจะขยายกรอบเวลาให้เอง สิ่งสำคัญคือการพูดถึงเรื่องหลักรัฐศาสตร์ที่จะใช้ควบคู่กับนิติศาสตร์ ระวังจะมีคนนำไปตีความเท่ากับเป็นการเปิดช่องให้มีการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะกลายเป็นช่องโหว่ช่องว่างทำให้เกิดการทุจริตกันขึ้นอีก บังคับใช้กฎหมายในภาวะวิกฤตโดยเข้มงวดเป็นดีที่สุด อย่าลืมว่าที่เปิดให้นั่งดื่มที่ร้านได้แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องเวลา แต่ไม่ได้มีการห้ามดื่มภายในบ้านหรือที่พัก ใครติดลมก็กลับไปดื่มต่อในที่ของตัวเองได้ แต่ต้องไม่เป็นการจับกลุ่มมั่วสุมที่กลายเป็นความเสี่ยงทำให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่ ขณะที่การเปิดเรียนเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามคาด เน้นออนไลน์มากกว่าออนไซต์ เพราะยังไม่มีสัญญาณหรือคำยืนยันที่หนักแน่นเพื่อให้ผู้ปกครองสบายใจได้ ฟัง ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแถลงข่าวล่าสุด การฉีดวัคซีนที่เพิ่มมากขึ้นก็น่าจะทำให้แด็กสามารถไปเรียนได้ เพราะเมื่อทุกคนได้รับวัคซีนแล้วอาการรุนแรงจากการติดเชื้อก็จะน้อยลง สุดท้ายจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ยึดตามตำราแต่ไร้แผนปฏิบัติที่ชัดเจนจนทำให้ผู้ปกครองมั่นใจ ก็ยังห่างไกลที่เด็กจะได้ไปเรียนที่โรงเรียน บรรยากาศประชุมส.ส.พรรคสืบทอดอำนาจวันวาน คึกคักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ถึงขนาดที่ว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคที่มานั่งหัวโต๊ะเป็นประธานถึงกับเอ่ยปาก หากบรรยากาศดีแบบนี้จะมาร่วมประชุมบ่อย ๆ เข้าใจได้เมื่อสามารถรักษาเก้าอี้เลขาธิการพรรคของ ธรรมนัส พรหมเผ่า ไว้ได้ ย่อมทำให้ทุกอย่างปลอดโปร่ง โล่งสบาย แต่กว่าจะได้บทสรุปจนเป็นที่พอใจของน้องเล็กของแก๊ง 3 ป. ก็ต้องพลิกเกมยื่นเงื่อนไขกันหลายข้ออยู่พอสมควร การถอนตัวไม่ลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ของ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผบ.ตร. ทั้งที่ประกาศตัวมาตั้งแต่อยู่ในตำแหน่งจะเสนอตัวเป็นทางเลือกให้คนกรุงเทพฯ กับข่าวที่ว่าได้รับการสนับสนุนจากหัวหน้าพรรคสืบทอดอำนาจสุดตัว แม้แต่ที่ทำการเตรียมพร้อมสู้ศึกก็ใช้ที่ทำการเก่าของพรรคแกนนำรัฐบาล แต่เมื่อเกิดปัญหาระหว่างแก๊ง 3 ป.จนกระเพื่อมกันทั้งพรรคแต่ก็จบลงในแบบที่พี่ใหญ่พอใจ ก็ปรากฏข่าวบิ๊กแป๊ะถอนตัว ถ้าตามมาด้วยข่าว พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ประกาศลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ เมืองกรุง ก็เป็นอันว่านี่แหละสิ่งที่พี่น้อง 3 ป.เขาขอกันเพื่อพักยกขัดแย้งชั่วคราว