ตลาดนิวยอร์ก

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ก.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้ปัจจัยหนุนจากจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน รวมทั้งการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,443.82 จุด เพิ่มขึ้น 131.29 จุด หรือ +0.37% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,536.95 จุด เพิ่มขึ้น 12.86 จุด หรือ +0.28% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,331.18 จุด เพิ่มขึ้น 21.80 จุด หรือ +0.14% ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันหลังขานรับความคาดหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ข่าวเกี่ยวกับการควบรวมกิจการและการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปได้ ช่วยหนุนตลาดด้วย ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 474.60 จุด เพิ่มขึ้น 1.48 จุด หรือ +0.31% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,763.08 จุด เพิ่มขึ้น 4.39 จุด หรือ +0.07%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,840.59 จุด เพิ่มขึ้น 16.30 จุด หรือ +0.10% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,163.90 จุด เพิ่มขึ้น 14.06 จุด หรือ +0.20% ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น และการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนของอังกฤษเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดด้วย ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,163.90 จุด เพิ่มขึ้น 14.06 จุด หรือ +0.20% สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อคืนนี้ (2 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 69.99 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.2564 สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 73.03 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ก.ย.) โดยสัญญาทองคำปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่สอง ท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1,811.5 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 30.3 เซนต์ หรือ 1.25% ปิดที่ 23.918 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 5.4 ดอลลาร์ หรือ 0.54% ปิดที่ 994.2 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 41.10 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 2,400.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ก.ย.) โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันนี้ ซึ่งคาดว่าข้อมูลดังกล่าวจะบ่งชี้ไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.25% แตะที่ 92.2254 เมื่อคืนนี้ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9146 ฟรังก์ จากระดับ 0.9151 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2554 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2615 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 109.96 เยน จากระดับ 109.92 เยน ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1874 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1845 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3839 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3779 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7403 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7374 ดอลลาร์สหรัฐ