ตลาดเมืองรองยุโรป

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ และภาคเอกชนร่วมกันประเมินสถานการณ์การส่งออกช่วงครึ่งหลังของปี 2566 พร้อมปรับแผนการทำงานเพื่อขับเคลื่อนการส่งออกรองรับความท้ายทายเศรษฐกิจโลก เดินหน้าเปิดตลาดใหม่ รักษาตลาดเดิม และฟื้นฟูตลาดเก่า ด้วยกลยุทธ์สำคัญ โดยได้กำหนดเป้าหมายการส่งออกใน 7 ตลาดเมืองรองยุโรป ราชรัฐโมนาโก เมืองโบโลญญาและเมืองเจนัว สาธารณรัฐอิตาลี เมืองเอเธนส์ สาธารณรัฐเฮลเลนิก (กรีซ) เมืองคาร์โลวี วารี สาธารณรัฐเช็ก เมืองอัสตานา สาธารณรัฐคาซัคสถาน และเมืองฮัมบูร์ก สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ผ่าน 350 กิจกรรมคาดว่าจะช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศประมาณ 19,400 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากมีความต้องการสินค้าของไทย โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและสินค้าเกษตร สินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้าอุตสาหกรรม และธุรกิจบริการ เพื่อให้การส่งออกของไทยเป็นไปตามเป้าหมายที่ร้อยละ 1.00 – 2.00 ทั้งนี้เชื่อมั่นว่า สินค้างไทยมีคุณภาพและมีอัตลักษณ์ เป็นที่ต้องการของตลาดโลก ประกอบกับแนวทางการส่งเสริมเชิงรุกของรัฐบาล จะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการส่งออกสินค้าไทยให้ได้ตามเป้าหมาย สร้างรายได้แก่ประเทศและชุมชนท้องถิ่น