ถั่วมารูโจ้ รสสไปซี่แซลมอนกลิ่นเทอร์ปีน

นายธนากร วัฒนวิจารณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SWC เปิดเผยว่า บริษัท ฮอกไกโด ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด (Hokkaido food & Beverage) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเต็มรูปแบบภายใต้แบรนด์ดัง ได้แก่ ถั่วมารูโจ้ เครื่องดื่มสมุนไพรซุปเปอร์ไฟต์ (SuperFight) และฮอกไกโดมิลค์ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ถั่วมารูโจ้ รสชาติใหม่ “ถั่วมารูโจ้ รสสไปซี่แซลมอนกลิ่นเทอร์ปีน” แต่งกลิ่นด้วยกัญชง-กัญชา เพิ่มความแซ่บซี้ด โดยนับเป็นผลิตภัณฑ์ถั่วเคลือบรายแรกของประเทศไทยที่แต่งกลิ่นเทอร์ปีน เพื่อเพิ่มความหลากหลาย ครบรสในคำเดียว และน่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้ตลาดถั่วเคลือบให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ และเพื่อตอบรับเทรนด์ที่หลากหลายจึงได้เปิดตัว “ถั่วมารูโจ้ รสสไปซี่แซลมอนกลิ่นเทอร์ปีน” ที่นอกจากจะยังคงความพิเศษด้วยการคัดเลือกถั่วลิสงที่มีคุณภาพผ่านการปรุงรสอย่างพิถีพิถัน ยังตอบรับกระแสคนรุ่นใหม่ด้วยการผสมผสานเทรนด์กัญชง-กัญชาให้เกิดเป็นรสชาติใหม่ที่อร่อยเข้มข้นแน่นอน โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2565 ในร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ 7-ELEVEN เพื่อให้สินค้าได้กระจายได้อย่างทั่วถึง ผู้บริโภคสามารถหาซื้อได้ง่าย และเมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์โควิดในปัจจุบัน จึงได้เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าโดยสามารถสั่งซื้อจากช่องทาง E-commerce เช่น Shopee , Lazada และ JD Central ได้อีกด้วย และด้วยระบบการกระจายสินค้าของบริษัทฯ ประกอบด้วยกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ จึงเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนให้ยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มของบริษัทฯ เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป "การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “ถั่วมารูโจ้ รสสไปซี่แซลมอนกลิ่นเทอร์ปีน” ในครั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีเนื่องจากเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคกำลังให้ความสนใจ และเป็นที่นิยมกัน เนื่องจากกัญชง-กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและสามารถนำไปต่อยอดพัฒนาสินค้าใหม่ๆได้อีกมาก ดังนั้นจะเป็นอีกปัจจัยช่วยให้ยอดขายในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเติบโต และผลักดันรายได้และกำไรของบริษัทฯอีกด้วย" นายธนากรกล่าวในที่สุด ทั้งนี้ บริษัท ฮอกไกโด ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด ถือเป็นการแตกไลน์ธุรกิจของ SWC โดยมุ่งสร้างความหลากหลายผ่านการขยายกลุ่มธุรกิจของบริษัท เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงมากยิ่งขึ้นในยุคปัจจุบัน