ทนายจิณณะ แย้มอ่วม

ทนายจิณณะ แย้มอ่วม ทนายความผู้เสียหายหุ้นและหุ้นกู้บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK กล่าวถึงกรณีที่มีการโหวตแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (PDITL) วันนี้ (20 พ.ย. 67) ว่า การประชุมเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 09.30น.- 16.00 น. โดยภาพรวมการประชุมนั้นไม่เป็นที่พอใจของผู้ร่วมเข้าร่วมประชุมของฝั่งกลุ่มผู้เสียหายรายย่อย โดยเฉพาะในช่วงของการประชุมและการโหวตลงคะแนนเพียงไม่กี่นาที ที่ได้มีการแจ้งมาว่ากลุ่มผู้เสียหายจากการซื้อหุ้นกู้และกลุ่มผู้เสียซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่มีสิทธิออกเสียง โดยอ้างว่ายังไม่ได้รับคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นหนี้ถึงสุด เรื่องนี้ทำให้กลุ่มผู้เสียหายรายย่อยไม่เห็นด้วย เพราะจะต้องแจ้งมาทางกลุ่มผู้เสียหายตั้งนานแล้วก่อนประชุม ซึ่งไม่ควรมาปล่อยให้ถึงวันประชุมแล้วมาบอกว่าไม่มีสิทธิออกเสียง ทำให้การที่อ้างเรื่องดังกล่าวนั้นอ้างไม่ขึ้น เพราะเจ้าหนี้รายอื่นก็ไม่ใช่เจ้าหนี้ถึงที่สุดตามคำพิพากษาเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้สถาบันการเงิน หรือ เจ้าหนี้การค้า เพราะยังไม่มีใครได้คำพิพากษาจากศาลเลย ขณะเดียวกันการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมแบบออนไลน์ ไม่เปิดโอกาสให้คนที่สูงอายุมี่ไม่เป็นเทคโนโลยีเข้าถึงการประชุมได้ จึงทำให้คนที่จะเข้าประชุมนั้นถูกจำกัดด้วยเรื่องของเทคโนโลยี ซึ่งรวมๆคือระบบไม่ได้เอื้ออำนวยให้มีการประชุมที่สะดวก อีกทั้งยังมีคำสั่งหน้างานว่าบางส่วนไม่มีสิทธิโหวตด้วย ส่วนแผนฟื้นฟูที่บริษัท อีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ทำมานำเสนอนั้นก็ผ่านไปตามปกติอย่างที่คาดการณ์ ซึ่งส่วนใหญ่คนที่ได้รับประโยชน์ก็คือพวกสถาบันการเงินที่เคยบอกไปก่อนหน้านี้ โดยความแตกต่างก็คือ แม้ว่าจะเป็นเจ้าหนี้สถาบันที่ไม่มีหลักประกัน ก็ยังได้ประโยชน์สูงกว่าเจ้าหนี้รายย่อยที่ไม่มีหลักประกัน ทำให้ดูแล้วยังไม่มีความเป็นธรรม สำหรับแผนทั้งหมดก็เจ้าหนี้สถาบันการเงินที่มีหลักประกัน จะได้เยอะสุด รองลงมาก็คือเจ้าหนี้ที่ไม่หลักประกัน ที่เหลือก็เป็นเจ้าหนี้อื่นๆที่ได้น้อยลดหลั่นกันมาเรื่อยๆที่ประมาน 10% ที่ถือว่าน้อยมาก โดยหลังจากนี้ที่มีการโหวตไปแล้วจะมีการทำรายงานเพื่อส่งไปที่ศาลล้มละลายกลาง เพื่อให้ศาลฯเห็นความเห็นชอบกับแผน ในวันที่ 18 ธ.ค. 67 นี้ โดยต้องรอในวันดังกล่าวว่าศาลจะให้ผ่าน หรือ ไม่ให้ผ่าน ส่วนกระบวนการหลังจากนี้ ในส่วนของกลุ่มรายย่อย จะต้องทำตามขั้นตอนกฎหมาย หากไม่เห็นด้วยในประเด็นไหนก็จะไปยื่นกับศาล ก่อนที่ศาลจะตัดสิน ซึ่งศาลจะฟังความทั้งสองด้าน ซึ่งอาจจะมีให้ผ่าน หรือให้แก้ หรือให้มีการประชุมใหม่ก็ได้ โดยหลังจากนี้จะมีรายงานของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ต้องส่งส่งรายงานในวันที่ 29 พ.ย. และทางกลุ่มรายย่อยก็จะเอาข้อมูลส่วนนี้ไปยื่นต่อศาลต่อไป.