ทรัสต์ชิปโคเรีย

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (5 พ.ย.67) สำนักข่าว “ซินหัว” รายงานข้อมูลการใช้เงินลงทุนจากต่างประเทศช่วง 8 เดือนแรกของปี 67ในเมืองเจียงอิน มณฑลเจียงซู ซึ่งเป็นเมืองที่พึ่งพาเศรษฐกิจภาคเอกชนเป็นหลัก มีจำนวนเพิ่มขึ้นแตะ 1.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 3.9 แสนล้านบาท) หลังจากที่เมื่อปี 66 ยอดใช้เงินลงทุนจากต่างประเทศของเมืองพุ่งสูงสุดในรอบ 20 ปี สำหรับ เมืองเจียงอิน ถือเป็นผู้นำในบรรดาเมืองต่างๆ ของมณฑลเจียงซู เนื่องจากสามารถดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติทั้งเก่าและใหม่ที่ต้องการมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมเกิดใหม่เชิงกลยุทธ์ ด้วยพื้นฐานที่ค่อนข้างแข็งแกร่งในด้านวงจรรวม พลังงานใหม่ อุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ ยาชีวเภสัชภัณฑ์ และอุตสาหกรรมอื่นๆ ในช่วง ม.ค.–ส.ค.ของปี 67 เมืองเจียงอินได้เปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ จำนวน 44 โครงการ ทั้งนี้ การลงทุนจากทรัสต์ชิป โคเรีย (Trustchip Korea) เมื่อเดือนส.ค.67 ซึ่งมีแผนที่จะสร้างสำนักงานใหญ่และฐานการผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ในเมืองเจียงอิน เมื่อโครงการเริ่มดำเนินการ คาดว่าจะมียอดขายต่อปีสูงถึง 350 ล้านหยวน (ประมาณ 1.75 พันล้านบาท) นอกจากนี้ ในเฟสที่สอง บริษัทฯ กำลังพิจารณาการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมชิปวัลเลย์ จีน-เกาหลี รวมถึงการก่อตั้งโรงงานบรรจุภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์และโรงงานผลิตเวเฟอร์ สำหรับยานยนต์ รุ่นที่ 3 ร่วมกับเมืองเจียงอิน เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่แสดงการขับเคลื่อนของอุตสาหกรรมแบบครบวงจร อย่างไรก็ดี บริษัทต่างชาติอีก 30 แห่ง อาทิ ยูนิลีเวอร์ และ EDF ก็เข้ามามีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมเกิดใหม่เชิงกลยุทธ์ โดยเริ่มโครงการลงทุนเจียงอิน รวมถึงบริษัทต่างชาติที่ลงทุนในเจียงอินอยู่แล้วก็มีการเพิ่มการลงทุน หลังจากการสร้างกำไรจากการลงทุนจำนวน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 336 ล้านบาท) ในช่วงต้นปี 67 บริษัท อัลฟา-ลาวาล (เจียงอิน) อุปกรณ์การผลิต จำกัด (Alfa Laval (Jiangyin) equipment manufacturing Co., Ltd.) ซึ่งดำเนินธุรกิจในจีนมานาน 30 ปี มีแผนที่จะเพิ่มการลงทุนอีก 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 68 อนึ่ง จากผลความพยายามของเมืองเจียงอิน ในการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เป็นธรรม ยึดหลักกฎหมาย และส่งเสริมนวัตกรรมสำหรับกิจการที่ได้ทุนจากต่างประเทศ ตลอดจนมีการให้สิทธิประโยชน์ สำหรับการส่งเสริมการขยายการลงทุน นวัตกรรม การวิจัยและพัฒนา และการลงทุนซ้ำจากผลกำไร ภายใต้แผนปฏิบัติการ 3 ปี เพื่อรวบรวมสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคของบริษัทต่างชาติ โดยตอนนี้ เมืองเจียงอินมีนโยบายที่เอื้อต่อธุรกิจ และมีมาตรการอำนวยความสะดวก 8 ด้าน ได้แก่ การเข้า-ออกประเทศ, การชำระเงิน, การทำงาน, การอยู่อาศัย,การเดินทาง,การบริโภค,การศึกษา และการรักษาพยาบาลของชาวต่างชาติ กลายเป็นปัจจัยที่ดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศให้มาลงทุนที่เมืองนี้เพิ่มขึ้น