ทศพงศ์ จารุทวี

กลับมาอยู่ในสายตาของนักลงทุนอีกครั้ง สำหรับหุ้นบริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG สะท้อนได้จากมูลค่าการซื้อขายในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ที่หนาแน่นผิดหูผิดตา จากก่อนหน้าซื้อขายกันแค่หลักสิบล้านบาท ก็กระโดดมาเป็นหลักร้อยล้านบาท บางวันทะลุพันล้านบาท ก็มีให้เห็นมาแล้ว ทั้ง ๆ ที่ราคาหุ้นแค่บาทเศษ ๆ เท่านั้น ราคาหุ้น XPG มาพร้อม ๆ กับราคาบิตคอยน์ที่พุ่งแรงแซงทางโค้ง ล่าสุดอยู่ที่ 66,220 ดอลลาร์สหรัฐ รับกระแส Bitcoin Halving อย่างต่อเนื่อง...แม้ระหว่างทางจะเห็นราคาหุ้น XPG ทิ้งดิ่งเป็นระยะ ๆ นั่นเป็นเพราะมีการขายทำกำไรออกมาตามครรลองคลองธรรม ในแง่ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นก็ว่ากันไป แต่มีอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวของ XPG ที่น่าสนใจ นั่นคือความเคลื่อนไหวของผู้ถือหุ้นใหญ่ เริ่มจาก ELEVATED RETURNS LLC กลุ่มบริษัทจัดการสินทรัพย์ชั้นนำจากนิวยอร์กที่ทำงานด้านการเปลี่ยนสินทรัพย์ทางการเงินให้กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 4 ได้ทำรายการขายหุ้นเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2567 จำนวน 350 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.5540% ส่งผลให้เหลือถือหุ้น 221 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.2441% จากเดิมถืออยู่ 571 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.7981% ส่วนคนที่มารับไม้ต่อจาก ELEVATED RETURNS LLC ปรากฏชื่อ “กรวิชญ์ สวาทยานนท์” เป็นผู้บริหารบริษัท ทุนศรีสยาม จำกัด เจ้าของอาคารมหาทุน และเป็นทายาทตระกูล “สวาทยานนท์” ผู้ปลุกปั้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในยุคแรก ๆ ของไทย แต่น่าแปลก “กรวิชญ์” ถือหุ้นได้เพียง 1 สัปดาห์ หรือแค่ 2 วันทำการเท่านั้น (หยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์) เปิดตลาดมาปุ๊บ (17 เม.ย. 2567) ก็ขายหุ้นปั๊บ โดยได้ขายหุ้นให้กับ “รวิพรรณ จารุทวี” จำนวน 350 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.2709% ที่ราคาหุ้นละ 1.20 บาท มูลค่ารวม 420 ล้านบาท ส่งผลให้ “รวิพรรณ” ถือหุ้นเพิ่มเป็น 363.73 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.3993% จากเดิมถืออยู่ 13.73 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.1283% และอัพสถานะขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 5 ทันที..!! เอ๊ะ...นี่เป็นสัญญาณการรุกคืบหุ้นใหญ่ XPG ของ “รวิพรรณ” ป๊ะเนี่ย..?? เพราะเมื่อนับรวมกับ WISDOM LEADER VENTURES LTD. ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกัน เดิมถือหุ้น XPG อยู่ราว 226.55 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.1173% ส่งผลให้ทั้งกลุ่มถือหุ้นรวมกัน 590.29 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.5166% ว่าแต่ทำไม “รวิพรรณ” ต้องเล่นท่ายากด้วยนะ..? ถ้าอยากได้หุ้น XPG จริง ๆ ทำไมไม่ซื้อตรงจาก ELEVATED RETURNS LLC ไปเลยล่ะ..?? เหตุใดต้องซื้อผ่าน “กรวิชญ์” ด้วยนะ..?? จะว่า “กรวิชญ์” ซื้อหุ้นมาเพื่อเก็งกำไร...ก็ไม่น่าจะใช่...ซึ่งเรื่องนี้คงเป็นปริศนาต่อไป..!? ที่น่าสนใจ ถ้าดูแค่ชื่อ “รวิพรรณ” หลายคนไม่คุ้น...ไม่รู้จักว่าเธอคนนี้เป็นใคร แต่ถ้าโฟกัสที่นามสกุล “จารุทวี” เชื่อว่าหลายคนคงร้องอ๋อ โดยเฉพาะนักลงทุนในยุคอะนาล็อก เพราะเธอเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ “เสี่ยเบ้ง”-ทศพงศ์ จารุทวี” อดีตผู้บริหารบริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ N-PARK นั่นเอง อ้อ..คงไม่ต้องเท้าความให้เปลืองพื้นที่กระดาษนะว่า ในอดีต N-PARK ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังมีเรื่องราวเป็นที่โจษจันมากขนาดไหน..?? คงรู้ ๆ กันอยู่แล้ว... โดย “ทศพงศ์” ถือเป็นทั้ง “คนข้างกาย” และเป็น “คู่เขย” ของนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน เนื่องจากภรรยาของ “ทศพงศ์” เป็นพี่สาวภรรยานายกฯ เศรษฐา ขณะที่ความเชื่อมโยงระหว่าง XPG กับบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI นั้น มีทั้งในแง่การออกเหรียญโทเคนดิจิทัล สิริ ฮับ อ้างอิงสินทรัพย์โครงการ สิริ แคมปัส ที่มี SIRI เป็นผู้เช่า และการที่ SIRI เข้าไปถือหุ้นใหญ่ใน XPG รวมทั้งมีผู้ถือหุ้น SIRI บางคนก็มาถือหุ้นใน XPG ... ส่วนกรณี “รวิพรรณ” รุกคืบถือหุ้นใหญ่ XPG น่าสนใจว่าจะมีการซื้อหุ้นเพิ่มอีกหรือไม่..?? จะถึงขั้นรวบหัวรวบหางเลยมั้ย..?? เป็นอีกช็อตที่น่าติดตาม อย่าลืมสิว่า “รวิพรรณ” เป็นลูกสาว “ขงเบ้ง” นะ..??? ...อิ อิ อิ...