ทีทีบี โนฟิกซ์

นางสาวกนกวรรณ เพชรพิสิฐโชติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารผลิตภัณฑ์ธุรกรรมธนาคารทีเอ็มบีธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB เปิดเผยว่า จากสัญญาณเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และทิศทางดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น ธนาคารจึงประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากบัญชี ทีทีบี โนฟิกซ์ เป็น 1.10% ต่อปี สำหรับบัญชีที่มีวงเงินฝากตั้งแต่ 2 ล้านบาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ดังนี้ บัญชีที่มีวงเงินฝาก 2 ล้านบาท ถึง 30 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปรับเพิ่มจากปีละ 0.90% เป็น 1.10% และวงเงินฝากส่วนที่เกิน 30 ล้านบาทขึ้นไป รับดอกเบี้ยเพิ่มจากอัตราเดิมปีละ 0.65% เป็น 0.85% ส่วนลูกค้าที่ฝากเงินคู่กับการลงทุนในกองทุนรวม มูลค่าการลงทุนเฉลี่ยตั้งแต่ 20 ล้านบาท วงเงินฝากไม่เกิน 30 ล้านบาท ดอกเบี้ยเงินฝากปรับจาก 1.40% เป็น 1.45% และวงเงินฝากส่วนที่เกิน 30 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปรับจาก 1.15% เป็น 1.20% มูลค่าการลงทุนเฉลี่ย 10 ล้านบาท วงเงินฝากไม่เกิน 30 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปรับจาก 1.30% เป็น 1.35% วงเงินฝากเกิน 30 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปรับจาก 1.05% เป็น 1.10% มูลค่าการลงทุน 1 ล้านบาทขึ้นไป วงเงินฝากไม่เกิน 30 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปรับจาก 1.20% เป็น 1.25% และวงเงินฝากเกิน 30 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปรับจาก 0.95% เป็น 1.00% ทั้งนี้บัญชี ทีทีบี โนฟิกซ์ เป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปตั้งแต่บาทแรก มีความโดดเด่นที่ให้ดอกเบี้ยทุกเดือน พร้อมอิสระในการเบิกถอน มุ่งให้ผู้ฝากออมเงินได้ตามเป้าหมาย และยืนหนึ่งในการเป็นบัญชีที่สามารถตอบโจทย์การออมเงิน โดย 1 บัญชีหลัก สามารถแยกกระเป๋าเก็บเงินได้หลายเป้าหมายโดยไม่ต้องเปิดหลายบัญชี สามารถเปิดบัญชีได้ง่าย ๆ ผ่านแอป ทีทีบี ทัช โดยก่อนหน้านี้ ทีทีบี ได้ทยอยประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก บัญชี ทีทีบี อัพ แอนด์ อัพ บัญชีเงินฝากประจำ 24 เดือน เริ่มต้นฝากเพียงครั้งละ 5,000 บาท รับดอกเบี้ยสูงตั้งแต่บาทแรก รับดอกเบี้ยทุก 3 เดือน จะถอนเมื่อไรก็ได้ และยิ่งฝากนานดอกเบี้ยยิ่งสูง โดยอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 2.5% ต่อปี และล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ก็ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยบัญชี ทีทีบี มีเซฟ เป็น 1.70% ต่อปี "ทีทีบี มุ่งมั่นและใส่ใจที่จะช่วยเหลือให้ลูกค้าทุกคนมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ทั้งวันนี้และอนาคต การประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ ธนาคารเชื่อว่าจะเป็นแรงจูงใจให้คนหันมาออมเงินเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินในระยะยาว รวมถึงเป็นการสร้างรากฐานชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าด้วย" นางสาวกนกวรรณ กล่าว