ทีม เอสคิว

บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัท และบริษัทย่อยของบริษัท ได้แก่ บริษัท ทีม เอสคิว จำกัด และ บริษัท เอทีทีคอนซัลแตนท์ จำกัด ได้เข้าลงนามในสัญญาจ้างสำรวจและออกแบบโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 กับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยาน พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก และระบบสาธารณูปโภคให้เพียงพอต่อการรองรับปริมาณจราจรทางอากาศ และผู้โดยสารไม่น้อยกว่า 16.5 ล้านคนต่อปี (16.5 MAP) ในระดับมาตรฐานสากล โดยมูลค่าสัญญาในส่วนของบริษัทและบริษัทย่อยของบริษัทเป็นจำนวน 114.11 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มีระยะเวลาดำเนินการ 1,625 วัน ด้าน ดร. อภิชาติ สระมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TEAMG เปิดเผยว่า บริษัท และบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท ทีม เอสคิว จำกัด และ บริษัท เอทีที คอนซัลแตนท์ จำกัด พร้อมทั้งพันธมิตร ได้ร่วมลงนามในสัญญาจ้างสำรวจและออกแบบโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 กับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. โดย บริษัท ทีม เอสคิว จำกัด เป็น Lead firm ในการดำเนินงาน มีมูลค่าสัญญาทั้งสิ้น 280.53 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีสัดส่วน ของบริษัท และบริษัทย่อย จำนวน 114.11 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) รวมระยะเวลาดำเนินการทั้งสิ้น 1,625 วัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการพัฒนาคุณภาพการให้บริการ-สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบสาธารณูปโภคให้เพียงพอต่อการรองรับปริมาณจราจรทางอากาศและผู้โดยสารไม่น้อยกว่า 16.5 ล้านคนต่อปี ตามมาตรฐานสากล ให้สอดคล้องกับแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่และแผนยุทธศาสตร์ประเทศในด้านต่าง ๆ ตามนโยบายของรัฐบาลและ ทอท. ทั้งนี้ ความสำเร็จจากการได้รับงานสัญญาจ้างสำรวจและออกแบบโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญและศักยภาพของกลุ่มบริษัท ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาและให้บริการด้านวิศวกรรมแบบครบวงจร ที่พร้อมสร้างสรรค์ผลงานและมอบบริการที่ดีที่สุดด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับสากล และเพิ่มศักยภาพให้กับโครงการระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งที่สำคัญของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน “การได้งานในครั้งนี้ ส่งผลให้บริษัทเติบโตต่อเนื่องและสนับสนุนผลประกอบการทั้งปี 2566 เติบโตตามเป้า โดย TEAMG ยังคงเดินหน้ารับงานเมกะโปรเจกต์ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต” ดร.อภิชาติ กล่าว