ที่รัฐสภาที่ประชุมคณะกรรมาธิการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ( 24 ก.ค.67 ) ที่รัฐสภาที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ได้ติดตามประเด็นกำหนดรายการยกเว้นสินค้า (Negative list) ของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2567 ได้กำหนด Negative list จำนวน 15 รายการ และ มติของคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตล่าสุด ได้เพิ่มสินค้าใน Negative list อีก 3 รายการ คือ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร ดังนั้น สินค้า Negative listทั้งหมดคือ 18 รายการ และรวมธุรกิจบริการอีก 1 รายการ เป็นจำนวนรวม 19 รายการ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สามารถเสนอแก้ไขปรับปรุงรายการสินค้า Negative list เพิ่มเติมได้ โดย คณะ กมธ. วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีความเห็นชอบตาม มติ ครม. แต่มีคำแนะนำไปยังคณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ว่า ตามคำแถลงในวันนี้ ( 24 ก.ค.67 ) มีข้อควรระวังอยู่ด้วยกันสองเรื่อง ดังนี้ 1.จะมีการนำเงินที่ได้จากการกระตุ้นเศรษฐกิจ กลับเข้าสู่ภาครัฐ ได้อย่างไร ในเมื่อมีคำแถลงว่า ร้านค้าที่ร่วมโครงการ จะไม่ถูกส่งรายละเอียดให้กับ กรมสรรพกร ประเด็นนี้กระทรวงการคลัง ต้องเร่งหากลไก ในการจัดการ หากไม่อยากใช้มาตรการเก็บภาษี 2.เรื่องของ การ GDP ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งข้อมูลมายัง คณะ กมธ.ฯ อย่างละเอียดว่า หลังจากดำเนินโครงการแล้ว GDP ของประเทศ จะโตขึ้นกว่าเดิม มากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมาธิการมีข้อสังเกตว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ต้องดำเนินการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบของการ ดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ในประเด็นผลกระทบของการมีอำนาจเหนือตลาดและการผูกขาดรวมทั้งศึกษาว่าการดำเนินโครงการจะนำไปสู่การเพิ่มสวัสดิการของสังคมหรือผู้บริโภคในส่วนของครัวเรือน อย่างไร ทั้งนี้ คณะ กมธ.ฯ ได้กำหนดนัดประชุมคณะกรรมาธิการครั้งต่อไป ในวันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม นี้ เวลา 13:30 น. ณ ห้องประชุมกรรมาธิการ CA 427 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา โดยเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ พิจารณาข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการ และ ตรวจรายงานของคณะกรรมาธิการ ก่อนเสนอรายงานเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป