ที่ ธนาคารกรุงเทพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ สมาคมธนาคารไทย (TBA) เห็นถึงความจำเป็นในการออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบางในระหว่างที่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และไม่ทั่วถึง โดยการประชุมหารือเพื่อปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% สำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME เป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ย และสนับสนุนการฟื้นตัว ปรับตัว ขณะที่ในช่วงที่กลไกตลาดกำลังปรับเปลี่ยนไปสู่จุดสมดุลในระยะข้างหน้าซึ่งเป็นไปในแนวทางเดียวกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล พร้อมกับสอดคล้องแนวนโยบายของ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ (ธปท.) ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL มีความพร้อมตอบสนองต่อมาตรการของภาครัฐและตระหนักถึงความสำคัญในการสนับสนุนช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของลูกค้าเพื่อลดภาระทางการเงินด้วยการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% มีผลตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2567 เป็นระยะเวลา 6 เดือน อีกทั้ง BBL ได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าครอบคลุมทั้งลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ SME และลูกค้ารายย่อยรวมถึงกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ลูกค้าได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ดังนั้น การปรับครั้งนี้ จึงเป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ BBL ที่จะช่วยเหลือลูกค้า รวมทั้งผู้ประกอบการในระหว่างที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงฟื้นตัว พร้อมกับเป็นการช่วยกระตุ้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยภาพรวมในช่วงที่มีความเปราะบางทั้งปัจจัยภายใน และภายนอกประเทศ นอกจากนี้ BBL ยังมีโครงการช่วยเหลือลูกค้า SME ด้วยการให้สินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษภายใต้โครงการ “สินเชื่อบัวหลวงเพื่อการปรับตัวธุรกิจ (Bualuang Transformation Loan)” วงเงินโครงการ 20,000 ล้านบาท ซึ่งพิจารณาให้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 10 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยพิเศษคงที่ 5% ต่อปีเป็นระยะเวลา 5 ปี นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถติดต่อสมัครสินเชื่อบัวหลวงเพื่อการปรับตัวธุรกิจได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 - 31มกราคม 2568 (หรือเมื่อมีลูกค้าใช้สินเชื่อเต็มวงเงินของโครงการ) เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจ SME ในการฟื้นฟูธุรกิจ และปรับตัวเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน