ท่องเที่ยวก.ค.

บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(3 ส.ค.2565) ว่า นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 31 ก.ค.2565 มีจำนวน สะสม 3,334,326 คน เมื่อแยกนักท่องเที่ยวตามรายสัญชาติ พบว่า 5 อันดับแรกที่ เดินทางเข้าไทยสูงสุด ได้แก่ 1.มาเลเซีย 420,660 คน 2.อินเดีย 337,282 คน 3.สิงคโปร์ 183,836 คน 4.สหราชอาณาจักร 167,232 คน 5.ลาว 157,831 คน ทั้งนี้จากสถิติเฉพาะเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการยกเลิกระบบ Thailand Pass พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 33,000-49,000 คน ต่อวัน รวมตลอดเดือน ก.ค. มีจำนวน 1,210,000 คน เพิ่มขึ้น 53.5% เมื่อเทียบกับ เดือน มิ.ย. มีจำนวน 788,258 คน โดยจากการประเมินแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติล่าสุด ททท.ยังคงเป้าหมายดึง นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยตลอดปี 2565 ไว้ที่ 10 ล้านคน KTBST: มีมุมมองเป็นบวกต่อจำนวนนักท่องเที่ยวในเดือน ก.ค.2565 ที่แตะระดับ 1.2 ล้านคน ซึ่งถือว่ามีแนวโน้มที่ฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาด (เดิมเราคาดว่าจะเห็นนักท่องเที่ยวจะแตะเดือนละ 1 ล้านคน ในช่วงไตรมาส 4/2565) ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวใน ช่วง 7 เดือนแรกปี 2565 อยู่ที่ 3.3 ล้านคน มากกว่าที่คาดที่ 2.8 ล้านคน ทำให้มีโอกาสเป็น upside เพิ่มจากประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวของในปี 2565 ที่ 6 ล้านคน โดยคาดว่าอาจจะเห็นนักท่องเที่ยวในปี 2565 จะอยู่ที่ระดับ 8-10 ล้านคนได้ ซึ่งหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากมาก-น้อยเรียงตามสัดส่วนรายได้ในประเทศไทยจากมาก-น้อยคือ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW (88%), บริษัทโรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL(80%), บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT (15%) และ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR (5%) สำหรับหุ้นกลุ่ม Tourism ยังให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “มากกว่าตลาด” ชอบ MINT, AOT ยังให้น้ำหนักการลงทุนเป็น“มากกว่าตลาด” โดยจากประเด็นนี้ ERW แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 4.40 บาท และ CENTEL แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 50 บาท จะได้ sentiment เชิงบวกมากสุด ขณะที่ยังชอบ MINT ราคาเป้าหมาย 44.00 บาท เพราะคาดผลงานไตรมาส 2 และไตรมาส 4/2565 จะพลิกกลับมาเป็นกำไรทุกไตรมาสและจะโตเด่นเหนือกลุ่ม นอกจากนี้ชอบบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 76.00 บาท ได้ประโยชน์โดยตรงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว นอกเหนือจากกลุ่ม Tourism มองว่าปัจจัยดังกล่าวจะเป็นบวกต่อ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 35.00 บาท เช่นกัน ซึ่งได้อานิสงส์จากปริมาณเที่ยวบินและบริการเติมน้ำมันอากาศยานที่เพิ่มขึ้น