ท๊อป บิทคับ

หุ้นบริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ มาตั้งแต่ปลายปี 2563 (วันที่ 14 ต.ค.) ด้วยไอพีโอ 6.50 บาท...แต่พอเข้ามาปุ๊บ ก็จมหายไปในตลาดฯ ปั๊บ กลายเป็นหุ้นที่ไม่มีใครเห็นหัว...ดูได้จากมูลค่าการซื้อขายที่แห้งขอด เฉลี่ยในแต่ละวันไม่ถึงหลักล้านบาทเสียด้วยซ้ำ..!! อ้อ...มีช่วงหนึ่งที่นักลงทุนเห็นหัว ก็เมื่อครั้งที่ SO ไปดึง “ท็อป บิทคับ” (จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ซีอีโอบิทคับ) มานั่งในบอร์ดนั่นแหละ ซึ่งด้วยกระแสของ “ท็อป” และบิทคับในตอนนั้นกำลังขึ้นหม้อสุด ๆ ก็เลยทำให้หุ้น SO จากเดิมที่ซึมกะทือ...วิ่งปรู๊ดปร๊าดขึ้นไปแตะที่ 20.10 บาท ในวันที่ 28 ธ.ค. 2564 หน้าตาเฉย... แต่นกกระจอกไม่ทันกินน้ำเสียล่ะมั้ง หลังจากนั้นหุ้น SO ก็ค่อย ๆ ปรับลดลงอีกครั้ง จนปัจจุบันซื้อขายกันที่ 9 บาทเศษเท่านั้น... นี่เพิ่งจะมีความเคลื่อนไหวในรอบเกือบ 2 ปี จากมติบอร์ดเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา ให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 557.98 ล้านบาท จากเดิม 446.39 ล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่จำนวน 111.59 ล้านหุ้น เพื่อจัดสรรแบบเฉพาะเจาะจง หรือ PP ในราคาหุ้นละ 8.1720 บาท...ซึ่งในตอนนั้นยังไม่เปิดเผยว่าจะจัดสรรให้กับไผ..?? ล่าสุดเปิดชื่อมาแล้ว..ไม่ธรรมดา อื้อหือ ไม่ธรรมดา เพราะไม่ใช่ตาสีตาสาที่ไหน แต่เป็นบริษัท ดับบลิวเอชเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (WHA VENTURE) ลูกในไส้ของบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA นั่นเอง... ว่าแต่คนในตระกูล “วิมลเฉลา” ผู้ถือหุ้นใหญ่ SO ไปป๊ะกับ “จรีพร จารุกรสกุล” เจ้าแม่นิคมอุตสาหกรรม WHA ได้ไงเนี่ย..? อันนี้น่าคิด เอ๊ะ...หรือเป็นวปอ.คอนเนคชั่น..? จึงเป็นที่มาของการดึง WHA VENTURE มาซื้อหุ้นเพิ่มทุน SO จำนวน 111.59 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 8.1720 บาท มูลค่า 911.97 ล้านบาท นั่นจะทำให้กลุ่ม WHA ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นเบอร์ 2 ในสัดส่วน 20% ของ SO ทันที..!! ก็น่าสนใจ การดึง WHA มาเป็นพันธมิตรครั้งนี้...ในเชิงของไซซ์ซิ่ง ด้วย SO ไซซ์เล็กกว่า เบื้องต้นถูกมองว่ามูลค่าเพิ่มจะมากกว่า WHA...แต่จริง ๆ แล้วต้องบอกว่า สมประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่..!! ในมุมของ WHA อันดับแรก สามารถรับรู้รายได้และกำไร ตามสัดส่วนการถือหุ้นใน SO ได้ก่อน ขณะเดียวกันได้ขยับขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ ธุรกิจให้บริการงานด้านการจัดหาบุคลากร และธุรกิจให้เช่าและบริการผ่าน SO... รวมทั้งได้ต่อยอดการให้บริการภายในกลุ่มให้ครอบคลุมครบวงจรมากขึ้น จากเดิมที่มีแค่ขายที่ดิน ให้เช่าโกดัง คลังสินค้า และบริการระบบสาธารณูปโภค ต่อไปจะมีในส่วนงานด้านการจัดหาบุคลากรเข้ามาเติมเต็มรองรับลูกค้าอีกด้วย... ฟาก SO การไปผูกข้อไม้ข้อมือกับเจ้าแม่นิคมอุตสาหกรรม 1) จะได้เงินก้อนใหญ่ 911.97 ล้านบาทเข้ามาเติมสภาพคล่องก่อนเลย ถ้าดูจากวัตถุประสงค์การใช้เงินเพิ่มทุน จะนำไปขยายตลาดไปยังกลุ่มภาคอุตสาหกรรมที่มีการเติบโต โดยเฉพาะเขตอีอีซี ประมาณ 900 ล้านบาท ภายในปี 2566-2567 ถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มที่น่าสนใจ และ 2) มีโอกาสเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่ม WHA ที่มีมากกว่า 900 ราย ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ทั้งไทยและต่างประเทศ ที่มีแนวโน้มการใช้บริการ Outsource โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญและให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ก็น่าจะช่วยหนุนการเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ... งานนี้จึงถือว่า win-win กันทั้ง 2 ฝ่าย..!! ที่น่าเสียดาย SO อุตส่าห์มีข่าวดีทั้งที แต่ดันมาในช่วงหุ้นขึ้น XD พอดิบพอดี ทำให้แทนที่จะเห็นราคาพุ่งปรี๊ดดด รับพันธมิตรใหม่ กลายเป็นทรุดลงซะงั้น..!! แหม๊...มันเสียของซะจริง ๆ...