ธนชาต พลัส

นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1/67 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,924 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ จำนวน 1,762 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.80% จากไตรมาสก่อนและเพิ่มขึ้น 11.60% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้มีสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของส่วนแบ่งกำไรของธุรกิจที่ TCAP ลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB ที่มีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 24.20% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ในขณะเดียวกันผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นของ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI ปรับลดลงจากสถานการณ์ที่เริ่มดีขึ้นเป็นผลให้ได้รับชำระคืนจากลูกหนี้มากขึ้นประกอบกับมีการบริหารจัดการคุณภาพของสินทรัพย์และการพิจารณาการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่เข้มงวดขึ้น โดยเศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตได้ภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ ซึ่งถือว่าเศรษฐกิจยังคงมีความเปราะบางค่อนข้างมาก โดยในปี 66 ที่ผ่านมา TCAP เก็บเกี่ยวความสำเร็จจากเงินที่ลงทุนไปเกือบ 10,000 ล้านบาท ซึ่งกำไรสุทธิก็เติบโตตามที่รายงานไปก่อนหน้านี้ในปี 67 เงินที่ลงทุนไปดังกล่าวก็ยังคงจะให้ผลตอบแทนที่ดีเช่นปีที่ผ่านมา แต่ในปีนี้ธุรกิจที่ TCAP เข้าไปลงทุน ซึ่งมุ่งเน้นให้แต่ละบริษัทในกลุ่มเสริมสร้างความมั่นคงและระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับภาวการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งทุกๆ ธุรกิจดำเนินธุรกิจตามแนวทางดังกล่าวและมีแนวโน้มที่ดี โดย TTB ที่เป็นบริษัทร่วมได้เน้นดำเนินผ่านกลยุทธ์เติบโตสินเชื่อคุณภาพและขยายฐานกลุ่มสินเชื่อรายย่อยผลตอบแทนสูง อีกทั้งยังมีผลประโยชน์ทางภาษีคงเหลืออีกจำนวนหนึ่งที่สามารถรับรู้ได้จนถึงปี 71 ในขณะเดียวกันบริษัทย่อย ทั้ง THANI ก็ค่อย ๆปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับจากการดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ที่ได้กล่าวข้างต้น ส่วน บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) มีเบี้ยประกันภัยรับเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป สำหรับ บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ปรับตัวลดลงแต่ธุรกิจหลักทรัพย์ในส่วนอื่นก็มีแนวโน้มดีขึ้น รวมไปถึง บริษัท ธนชาต พลัส จำกัด ที่คาดการณ์ว่าสินเชื่อจะยังคงเติบโตต่อเนื่องอย่างรัดกุม นอกเหนือจากนี้ TCAP ยังพยายามลงทุนเพิ่มเติมเพื่อสร้างผลตอบแทนให้มากยิ่งขึ้น ต่อยอดความสำเร็จของปีที่ผ่านๆ มา