ธนาคารแห่งปะรเทศไทย

บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (11 เม.ย. 67) ว่า แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.50% แต่ฝ่ายนักวิเคราะห์ยังคงคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย ณ สิ้นปี 67 อยู่ที่ 2% เนื่องจากเงินเฟ้อและการเติบโตเศรษฐกิจที่ยังคงต่ำกว่าเป้าหมาย แม้เริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้นได้บ้าง ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ได้เปิดเผยรายละเอียดของโครงการเงินดิจิทัล พร้อมกลไกการระดมทุน โดยรัฐบาลเชื่อว่าจะช่วยเป็นแรงกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 68 ราว 1.2-1.6% ส่งผลให้ฝ่ายนักวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกต่อ 2 ปัจจัยดังกล่าว 1) แม้ธปท. จะไม่ได้มีการ “ลด” ดอกเบี้ยครั้งนี้ แต่น้ำหนักการ “ลด” ดอกเบี้ยในครั้งหน้าสูงมากจากคาดการณ์ของตลาด 2) ธปท. ได้ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของ GDP ประเทศไทยในปี 67 มาอยู่ที่ 2.6% 3) สำหรับการใช้จ่ายในระบบ 2 รอบ ก่อนถอนเป็นเงินสดของโครงการ Digital Wallet อาจจะสร้างผลการเติบโตทวีคูณต่อระบบเศรษฐกิจ (Multiplier effect) มากกว่าที่ตลาดประเมิน รวมถึงยังมีโครงการ และมาตรการอื่นๆที่เข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ อาทิ มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ และ โครงการดันประเทศไทยสู่สถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายนักวิเคราะห์ได้ตัดเลือกหุ้น 8 ที่เป็นท็อปพิกและน่าลงทุนมานำเสนอ ได้แก่ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA, ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW, บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP, บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU และ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB