ธนาคารไปรษณีย์และการออมของประเทศจีน

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลกลุ่มหุ้นธีม China Play ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ จากประเด็นกระทรวงการคลังจีนประกาศวันนี้ (31 มี.ค.) ว่า จะออกพันธบัตรรัฐบาลพิเศษมูลค่า 5 แสนล้านหยวน (ประมาณ 6.97 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือประมาณ 2.36 ล้านล้านบาท เพื่อเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 ให้กับ 4 ธนาคารพาณิชย์รัฐวิสาหกิจรายใหญ่ของประเทศ โดยกระทรวงฯระบุว่า เงินทุนดังกล่าวมีเป้าหมายเฉพาะเจาะจงเพื่อเสริมสร้างเงินกองทุนหลักของธนาคารขนาดใหญ่ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China), ธนาคารการก่อสร้างจีน (China Construction Bank), ธนาคารแห่งการสื่อสาร (Bank of Communications) และธนาคารไปรษณีย์และการออมของประเทศจีน (Postal Savings Bank of China) นอกจากนี้กระทรวงฯ ระบุอีกว่า มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพการดำเนินงานของธนาคาร และช่วยให้สามารถสนับสนุนเศรษฐกิจโดยรวมของจีนได้ดีขึ้น นอกจากนี้การอัดฉีดเงินทุนครั้งนี้ยังคาดว่าจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงของธนาคาร และสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาวให้กับนักลงทุน การสนับสนุนด้านเงินทุนนี้จะดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยสอดคล้องกับหลักการที่อิงกลไกตลาดและเป็นไปตามกฎหมาย ด้านสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงฯ ให้ความมั่นใจว่า แม้จะมีการอัดฉีดเงินทุนดังกล่าว ธนาคารรัฐวิสาหกิจรายใหญ่ของจีนในปัจจุบันยังคงดำเนินงานอย่างมีเสถียรภาพ มีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี มีเงินสำรองหนี้สูญเพียงพอ และตัวชี้วัดสำคัญด้านกฎระเบียบยังคงอยู่ใน "ช่วงที่ดี" (healthy range) ทั้งนี้จากการอัดฉีดเงินทุนดังกล่าวมีแนวโน้มส่งผลเชิงบวกต่อตลาดหุ้นทั่วภูมิภาค โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจจีน ขณะเดียวกันกลุ่มหุ้นไทยที่มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน อาจได้รับอานิสงส์ในเชิงจิตวิทยาการลงทุน (Sentiment) รวมถึงผลประกอบการในระยะต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นธีม China Play คาดจะได้ประโยชน์ อาทิ กลุ่มปิโตรเคมีและวัสดุก่อสร้างคาดได้ประโยชน์จากคำสั่งซื้อและกิจกรรมอุตสาหกรรมในจีนฟื้นตัว นอกจากนี้กลุ่มท่องเที่ยวและบริการ คาดรับอานิสงส์จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมไปถึงกลุ่มค้าปลีกที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศ ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กลุ่มได้ประโยชน์จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL , บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ,บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ AU ,บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ,บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC เป็นต้น