ธุรกิจทวงหนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ธ.ค. 2564) ณ เวลา 10:49 น. ราคาหุ้นของบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ปรับตัวขึ้นอยู่ที่ 68.00 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 0.74% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 354.68 ล้านบาท ทำออลไทม์ไฮอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับควงคู่ บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ปรับตัวขึ้นอยู่ที่ 55.75 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.76% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 701.86 ล้านบาท ทำออลไทม์ไฮเช่นกัน บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า มีมุมมอง Positive ต่อ JMART จากการประกาศอนุมัติจัดตั้ง JV ระหว่าง JMT และ KBANK โดยเป็นบวกทั้งในแง่ต้นทุน และการแข่งขัน และเป็นการเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจจากเดิมเน้นเข้าประมูล โดยได้ปรับประมาณการปี 2565-2566 ขึ้นเฉลี่ย 2% เป็น 1.96 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 2.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากการปรับประมาณการกำไรของ JMT ขึ้นเฉลี่ยปีละ 4% จากสมมติฐานการซื้อหนี้ที่สูงขึ้น ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 4/2564 เติบโตเด่นจากทุกกลุ่มธุรกิจในเครือเข้า High season โดยปรับมูลค่าพื้นฐานปี 2565 ขึ้นเป็น 60 บาท จากเดิม 53 บาท จากการปรับมูลค่าพื้นฐาน JMT ขึ้นเป็น 75 บาท และ คงคำแนะนำ Trading Buy อย่างไรก็ตามแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ หนุนด้วยเงินทุนโดยมี JMT เป็นตัวหลัก ขณะที่ยังมี upside risk จาก Synergy ร่วมกับ BTS และ GUNKUL รวมถึงกระแสตอบรับของ JFIN Coin อนึ่ง JMT แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ มีมติอนุมัติหลักการให้ร่วมลงทุน กับ KBANK โดยผ่านบริษัทลูกของ KBANK จัดตั้ง JV เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการงานติดตามหนี้และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ โดยจากรายละเอียดเบื้องต้น JMT จะถือหุ้นน้อยกว่า 50% และ KBANK ถือหุ้นมากว่า 50% โดยการตัดตั้งบริษัทร่วมทุนคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1/2565