ธุรกิจป้ายโฆษณา

ถ้าพูดถึงหุ้นป้ายโฆษณาอย่างบริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO จะเห็นว่า ในช่วง 2–3 ปีมานี้ค่อนข้างเงียบเป็นเป่าสาก..!! ในขณะที่ผลการดำเนินงานก็ถดถอยลงเรื่อย ๆ จากงบงวดสิ้นปี 31 มี.ค. 2563 ขาดทุน 7 ล้านบาท มางบงวดสิ้นปี 31 มี.ค. 2564 ขาดทุนปาไป 991 ล้านบาท... ส่วนหนึ่งเป็นเพราะด้วยเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้เม็ดเงินโฆษณาหดหาย ก็กระทบต่อสื่อโฆษณาของ MACO ไปเต็ม ๆ... เมื่อไม่มีปัจจัยเชิงบวกมาหนุน เลยทำให้หุ้น MACO ไม่ไปไหน...ยังคงถูกสะกดราคาไว้ต่ำบาทเสมอต้นเสมอปลาย..!! แถมยังถูกคนติฉินนินทาว่า เป็นลูกเมียน้อยกลุ่ม BTS หรือเปล่า..? จึงถูกทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ไม่ได้รับการเหลียวแล...ซึ่งจะแตกต่างจากลูกอีกคนหนึ่ง...เอ๊ะ...เค้าคือใครหน๊อ..!? ถ้าย้อนไปดูแบ็คกราวด์ของ MACO นั้น ก่อร่างสร้างตัวมากับป้ายโฆษณานอกอาคาร และถือเป็น 1 ใน 5 ผู้นำตลาดสื่อนอกบ้าน ก่อนจะถูกรวบหัวรวบหางมาอยู่ภายใต้กลุ่ม BTS โดยมีบริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI มาถือหุ้นใหญ่ แต่ด้วยบริบทของป้ายโฆษณาที่เปลี่ยนไป มีป้ายจอ LED หรือจอดิจิทัลเข้ามาทดแทน ทำให้ลูกค้าหันไปใช้บริการป้าย LED มากขึ้น ประกอบกับป้ายนอกอาคารถูกครอบด้วยกฎหมาย กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ค่อนข้างเยอะ ทำให้โตค่อนข้างยาก...MACO จึงต้องพยายามปรับตัว... ขณะที่ก่อนหน้านี้บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB เจ้าแห่งป้ายอีกราย ก็เข้ามาซื้อหุ้น MACO กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่...ซึ่งหลังจากผู้ถือหุ้นเปลี่ยน ธุรกิจ MACO ก็เปลี่ยนเช่นกัน...เห็นได้ชัดจากการขายป้ายทั้งหมดที่อยู่ในมือให้กับ PLANB ไปบริหารจัดการ นั่นแปลว่า MACO จะเปลี่ยนบทบาทจากเดิมเป็นเจ้าของแอสเซท (ป้าย) ต่อไป อาจเป็นในลักษณะรับจ้างบริหารระบบแทน ฟาก PLANB ก็จะกินรวบสื่อทั้งในอาคารและนอกอาคาร...ยกสถานะขึ้นสู่เจ้าพ่อป้ายโดยสมบูรณ์แบบ... ส่วน MACO ก็จะหันเรือธงไปหากินกับธุรกิจป้ายโฆษณาในต่างประเทศแทน โดยปัจจุบันบุกไปที่มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ซึ่งมีทั้งป้ายโฆษณานอกบ้าน และในอาคารสำนักงาน แต่ด้วยสถานการณ์โควิด ทำให้ 2–3 ปีมานี้ค่อนข้างเงียบเหงา...โอกาสในการสร้างรายได้ยังไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าที่ควร ในระหว่างนี้ MACO ก็ต้องหาช่องทางใหม่ ๆ ในการสร้างรายได้...หนึ่งในนั้น ก็ไปจับไม้จับมือกับบริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG ด้วยการประกาศตั้งบริษัทร่วมทุนที่ชื่อว่า TBD เพื่อรุกธุรกิจเกมออนไลน์ โดยแต่ละฝ่ายจะถือหุ้น 50% เท่า ๆ กัน... ดีลนี้น่าสนใจ ตรงที่เป็นการนำจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย มาต่อยอดธุรกิจร่วมกัน เพื่อไปสู่เป้าหมายตลาดต่างประเทศ..!! โดย YGG มีความเก่งกาจในการทำเกม แต่อาจไม่ถนัดด้านการตลาด ก็อาศัย MACO ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการทำตลาด โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศที่ MACO มีแขนขาพร้อมอยู่แล้วในการผลักดัน...โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะปล่อยเกมออกสู่ตลาดได้ 5–7 เกม ขณะที่ประเมินกันว่า ในอีก 2 ปีข้างหน้า ตลาดเกมโลกจะมีมูลค่ามากกว่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว ซึ่งถ้าดีลนี้ประสบความสำเร็จ ก็น่าจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ MACO ได้มากโขเชียวล่ะ... เท่ากับว่า MACO ก็จะมีเนื้อใหม่...ในกระดองเก่า เข้ามาเติมเต็ม..!! เป็นสตอรี่ใหม่ที่อาจทำให้หุ้น MACO กลับมามีชีวิตชีวามากขึ้น...เผลอ ๆ จะช่วยลบคำติฉินนินทาที่ว่า เป็นลูกเมียน้อยสู่ลูกเมียหลวงได้ด้วยนะเธอ... ...อิ อิ อิ...