นกลุ่มพลังงาน

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้น มองเป็นการเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์หลังจากลงไปใกล้ระดับ 1,600 จุด แม้ว่าจะยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา แต่ได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานเป็นหลัก เนื่องจากกลุ่มโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิต 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ขณะที่หุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เผชิญแรงขายทำกำไรหลังเล่นเก็งกำไรปัจจัยเงินบาทอ่อนค่าไปแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งนี้มองว่าในเดือน ต.ค.นี้จะมีการเปลี่ยนกลุ่มเล่น จากกลุ่มส่งออกหันไปลงทุนหุ้นกลุ่ม Domestic play แทน และจะมีการขายหุ้น Non-Bank ไปเข้ากลุ่มแบงก์แทน ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ ขณะที่ตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้บวกเล็กน้อย พร้อมแนะติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯวันศุกร์นี้ และความสัมพันธ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (6 ต.ค.) นายสรพล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,610 - 1,630 จุด ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ SVT มูลค่าการซื้อขาย 7,445.70 ล้านบาท ปิดที่ 3.54 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,550.07 ล้านบาท ปิดที่ 137.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท AOT มูลค่าการซื้อขาย 4,045.53 ล้านบาท ปิดที่ 64.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท TRUE มูลค่าการซื้อขาย 3,510.78 ล้านบาท ปิดที่ 4.06 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,281.46 ล้านบาท ปิดที่ 44.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท