นครหลวง แคปปิตอล

นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ “ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 22 ก.พ.2565 มีประเด็นสำคัญดังนี้ แผนลงทุน AIT-NKON-BZB ส่งเสริม Synergy กลุ่มสบาย สำหรับ SABUY ประกาศแผนลงทุนใน 3 ธุรกิจเพิ่มเติมทั้งการลงทุนใน บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT, 2.บริษัท นครหลวง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ NKON และ3.บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด หรือ BZB โดยทั้ง 3 จะเป็นตัวที่ส่งเสริม Synergy ของกลุ่มสบาย ลงทุน AIT ต่อยอด Ecosystems กลุ่มสบายครบวงจร โดย AIT บริษัทมีความสนใจเข้าลงทุน เนื่องจากเป็นบริษัทดำเนินธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโทรคมนาคมแบบครบวงจร (SI) ที่ประสบความสำเร็จและเป็นแชมป์แนวหน้าในประเทศไทย และทางบริษัทมีความสนใจที่จะเพิ่มศักยภาพบริษัทลงทุนในธุรกิจ SI และมองว่าการลงทุนครั้งนี้เป็นการสร้าง Enterprise systems ที่จะช่วยต่อยอดให้ระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystems) บริษัทครบวงจร และในส่วนงานที่เป็น SI ของ AIT ถือว่ามีฐานลูกค้าที่เป็นบริษัทชั้นนำในประเทศ ซึ่งตรงนี้จะมาช่วยต่อยอดและหนึ่งในมิชชั่นที่บริษัทจะทำคือตัว SABUY Enterprise บริษัทก็อยากจะใช้ความชำนาญของทาง AIT มาร่วมกันสร้างเอ็นเตอร์ไพรส์ระบบเพื่อนำไปขึ้นให้ลูกค้ารายใหญ่-กลาง-เล็ก รวมทั้งอีก 1 โปรเจ็กต์ ที่มองศักยภาพของ AIT คือ บริษัทมีการลงทุนในบริษัทที่ทำ CDM หน้า 7-11 ซึ่งในส่วนนี้มองว่าความชำนาญของ AIT ในการติดตั้งระบบ จะเป็นประโยชน์ทั้งกับ AIT และ SABUY ด้วย เม็ดเงินลงทุน AIT เกือบ 1,000 ล้านบาท สำหรับการลงทุนใน AIT เบื้องต้นบริษัทจะนำธุรกิจเข้าไปด้วย โดยเม็ดเงินลงทุนครั้งนี้รวมทั้งหมดประมาณ 1 พันล้านบาท และคาดว่าการลงทุนครั้งนี้จะสร้างผลตอบแทน และเสริมสร้างธุรกิจกลุ่ม SABUY ให้เติบโตในครั้งปีหลังและในปีหน้า และการลงทุนครั้งนี้จะจะยังคงใช้ทีมผู้บริหารชุดเดิมของ AIT กำหนดนโยบายลงทุนต่างเช่นเดิม โดย SABUY จะเข้าไปในลักษณะบิสเนสพาร์ทเนอร์ และจะร่วมถือหุ้นและสร้างธุรกิจ AIT ให้เติบโตแข็งแกร่ง ในขณะเดียวประโยชน์ที่ได้จาก SABUY ก็จะต่อยอดมาสู่ SABUY ในฐานะผู้ถือหุ้น และในอนาคต SABUY จะทำดาต้า เซ็นเตอร์ และคลาวด์ ซึ่ง AIT เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันโปรเจกของ SABUY ทั้งนี้บริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญของ AIT จำนวน 30 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 2.91% ของทุนที่ออกและชำระแล้ว ในราคาหุ้นละ 7.08 บาท รวมมูลค่า 212.40 ล้านบาท และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น AIT ครั้งที่ 2 (AIT-W2) จำนวน 140 ล้านหน่วย ราคาหน่วยละ 3.55 บาท รวมมูลค่า 497 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 709.40 ล้านบาท จากนายอานนท์ชัย วีระประวัติ ผู้ถือหุ้นเดิมของ AIT และ AIT-W2 เล็งดัน NKON เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วน Synergy จากการลงทุน NKON ถือเป็นบริษัทที่น่าชื่นชมเพราะมีอาร์โอเปอเรชั่นส่วนใหญ่อยู่ภาคอีสาน มีจำนวนสาขาอยู่ 105 สาขาค้าที่บริษัทชำนาญมี 3 ส่วน ส่วนแรก คืออาการปล่อยมอเตอร์ไซค์ และการประกันตัวนำโฉนดหรือนำที่ดินมาประกัน และตัวสุดท้ายคือเครื่องมือ เกษตร ซึ่งทั้งสามเป็นยุทธศาสตร์ที่ SABUY อยากจะเติบโต โดย NKON สามารถใช้เครือข่าย SABUY Speed หรือช่องทางสะดวกส่งของบริษัทที่มีกว่า 10,000 จุด และเครือข่ายที่เป็นเอเยน ไดเรกเซลล์ หรือพาร์เนอร์ของบริษัทจะเป็นจุดขายที่จะหาลูกค้ามาให้กับ NKON ซึ่งตรงกับกลยุทธ์ของ SABUY ทำให้ตัดสนใจเข้าลงทุนใน NKON ในสัดส่วน 25% และ NKON มีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในระยะต่อไป ซึ่งภายหลังจากผู้ถือหุ้นอนุมัติจะเห็นการขยายสาขา หรือกลุ่ม SABUY SPEED ที่เป็นจุด Drop-off รวมถึงพาร์ทเนอร์ทั้งหมดของ SABUY ในการช่วยผลักดันสินค้าของนครหลวงฯ NKON ปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อ 1,400-1,500 ล้านบาท ในส่วนของดีล NKON ใช้เงินประมาณ 900 ล้านบาท โดยแบ่ง 75% เป็นเงินสด 580 ล้านบาท และส่วน แลกเป็นหุ้นอยู่ในสัดส่วน 25% ในการทำรายการประมาณ 200 กว่าล้านบาท สำหรับ NKON ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนประมาณ 555 ล้านบาท ทุนชำระแล้ว 470 ล้านบาท ส่วนพอร์ตสินเชื่อปัจจุบันประมาณ 1,400-1,500 ล้านบาท ซึ่งการเข้า Transaction ครั้งนี้คาดจะทำให้สินทรัพย์เติบโตแตะ 3,000 ล้านบาท คือจะเติบโตก้าวกระโดด ลงทุน BZB มีศักยภาพสูงสุด ฐานลูกค้ามากกว่า 100 ล้านบัญชี สำหรับการลงทุนใน BZB ถือเป็นบริษัทที่มีศักยภาพสูงสุดเนื่องจากเป็นบริษัทเทคโนโลยี มีพนักงาน 500 คน มีฐานลูกค้ามากกว่า 100 ล้านบัญชี ดำเนินงานอยู่ใน 8 ประเทศ มีลูกค้าชั้นนำระดับโลกที่ใช้ระบบ CRM และระบบ Tech อยู่กว่า 300 บริษัท ซึ่งศักยภาพก็จะเข้ามาเสริมตัวธุรกิจเข้ามาให้ที่ SABUY รวมทั้ง BZB จะเป็นพาร์เนอร์หลัก และ BZB จะช่วย SABUY พัฒนาแอปพลิเคชัน