นคราชสีมา

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (1 กรกฎาคม 2567) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติและคณะ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ติดตามการตรวจราชการการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) จังหวัดนคราชสีมา พร้อมรับฟังผลการดำเนินงานการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนและปัญหาอุปสรรคของราษฎรในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ได้แก่ ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์และสุรินทร์ ทั้งนี้ มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือขับเคลื่อนภารกิจ คทช. ในการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน รวมถึงการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาดภายหลังจากที่ได้รับการอนุญาตเข้าอยู่อาศัย รวมไปถึงทำประโยชน์ในพื้นที่การพัฒนาดินให้มีผลผลิตที่สูงขึ้นและการแก้ไขปัญหาถนนหลักในพื้นที่ที่มีความไม่สะดวกในการคมนาคม ปัญหาขนส่งผลผลิตการเกษตรจากการขาดแคลนระบบกระจายน้ำในแปลงเกษตร รวมทั้ง การส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อลดต้นทุนเพิ่มผลผลิตและยกระดับผลผลิตทางการเกษตรให้เกิดการสร้างมูลค่าจากการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างสูงสุดในพื้นที่ที่รัฐจัดให้ และการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่อย่างยั่งยืน ขณะที่ นายภูมิธรรมและคณะได้พบปะประชาชนเกษตรกรในพื้นที่ พร้อมเยี่ยมชมบูธผลิตภัณฑ์ชุมชน คทช. รวมทั้งรับชมนวัตกรรม Smart Farm ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมเข้ามาจัดการระบบแปลงเกษตรควบคุมและสั่งงานอัติโนมัติในระยะทางไกลเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต โดยมี ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (ผอ.สคทช.) พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สคทช. ผู้แทนหน่วยงานภาคีเครือข่ายในพื้นที่และประชาชนร่วมให้การต้อนรับและรายงานผลการดำเนินงาน ณ สหกรณ์การเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินปากช่อง (คทช.) จำกัด ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ด้าน นายภูมิธรรมฯ กล่าวว่า ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ทำหน้าที่ประธาน คทช. มีความตั้งใจที่จะช่วยแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนที่ไม่มีที่อยู่อาศัยและทำกินอย่างเต็มความสามารถ โดยใช้กลไกของ คทช. มาขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งอยากให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจว่ารัฐบาลพร้อมให้การช่วยเหลือในด้านต่างๆ เพื่อผลักดันนโยบาย คทช. ให้เกิดผลสำเร็จในทุกพื้นที่ รวมไปถึงการส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนเพิ่มขึ้นด้วยและการที่หน่วยงานภาครัฐจะสามารถจัดทำโครงการเพื่อมาพัฒนาพื้นที่ให้เกิดผลสำเร็จและมีประสิทธิภาพก็ต้องอาศัยความสามัคคีของคนในพื้นที่ในการรวมกลุ่มกันและสร้างให้ชุมชนมีความเข้มแข็งสามารถประสานกับภาครัฐเพื่อร่วมกันพัฒนาพื้นที่ให้เกิดความเจริญเติบโต ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่สหกรณ์การเกษตรฯ ปากช่องแห่งนี้เป็นการจัดระบบการใช้ประโยชน์ที่ดิน ความหมายคือ นำพื้นที่ว่างมาจัดให้กับพี่น้องเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินของตนเองได้ประกอบอาชีพ โดยเฉพาะด้านการเกษตร ซึ่งการรับฟังการดำเนินการในลักษณะ “การจัดระบบ” ซึ่งเห็นว่าเป็นแนวทางที่มีโอกาสในการพัฒนาศักยภาพทั้งของผู้ได้รับจัดที่ดินและการพัฒนาดินให้มีผลผลิตที่สูงขึ้น เพราะว่ารัฐบาลเชื่อว่าสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริหารจัดการพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงประชาชนผู้เข้าทำประโยชน์มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง พร้อมขอชื่นชมสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรฯ ปากช่อง ที่สามารถบริหารจัดการพื้นที่อย่างเป็นระบบมีการทำการเกษตรแบบ Smart Farm ใช้เทคโนโลยี IOT ในการรดน้ำและผสมปุ๋ยในแปลงเกษตร ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่นำมาบริหารจัดการเพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และยังมีการรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็งมีความสามัคคีภายในชุมชน พร้อมทั้งสามารถพึ่งพาตนเองและสร้างรายได้ให้กับชุมชน ซึ่งหากหน่วยงานภาครัฐร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบผมเห็นว่าพื้นที่นี้สามารถเป็นพื้นที่ต้นแบบและขยายผลไปสู่พื้นที่ คทช. อื่น ๆ ต่อไปในอนาคต สำหรับปัญหาการขาดแคลนระบบกระจายน้ำในแปลงเกษตร ขณะเดียวกัน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยหาทางแก้ไขปัญหาแบบเร่งด่วน เพราะจะช่วยให้เกษตรกรมีพื้นที่ปลูกพืชที่มีราคาและมีผลผลิตเพียงพอที่จะส่งให้บริษัทเอกชนได้ และในส่วนเส้นทางการสัญจรในพื้นที่ที่ไม่สะดวกขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจากทาง ส.ป.ก. ในฐานะหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ หรือ อ.บ.ต. ที่ดูแลพื้นที่นี้หารือและวางแผนกันให้ชัดเจน ทางสหกรณ์จะได้สามารถวางแผนได้ว่าจะพัฒนาพื้นที่ต่อไปอย่างไร พร้อมกับขอเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนร่วมกันมุ่งมั่น ขับเคลื่อนภารกิจของ สคทช. อย่างเต็มที่เพื่อความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนคนไทยทุกคน ดร.รวีวรรณฯ กล่าวเสริมว่า สคทช. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการดำเนินการของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ รวมถึงการเร่งรัดและขับเคลื่อนนโยบายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2558 โดยผลการดำเนินงานการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์และสุรินทร์ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2558 - ปัจจุบัน มีพื้นที่เป้าหมาย 80 พื้นที่เนื้อที่ 306,150 ไร่ 52.5 ตารางวา ออกหนังสืออนุญาตแล้ว 25 พื้นที่ เนื้อที่ประมาณ 31,529 ไร่ 1 งาน 50.7 ตารางวา พร้อมกันนี้ได้จัดคนเข้าใช้ประโยชน์แล้ว 1,792 ราย รวม 2,422 แปลง และได้ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพแล้ว 12 พื้นที่ สำหรับพื้นที่สหกรณ์การเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินปากช่อง (คทช.) จำกัด มีการดำเนินการในรูปแบบการจัดระบบตามหลักเกณฑ์ของ ส.ป.ก. โดยจัดพื้นที่ให้กับประชาชนเป็นที่อยู่อาศัย รายละ 1 ไร่ และที่ทำกินรายละ 5 ไร่ ปัจจุบันมีพื้นที่ คทช.ที่เป็นที่ดิน ส.ป.ก. จำนวน 80 พื้นที่ เนื้อที่ 85,522 ไร่ 16 ตารางวา ออกหนังสืออนุญาตแล้ว 23 พื้นที่ เนื้อที่ 21,545 ไร่ 1 งาน 34 ตารางวา จัดคนเข้าใช้ประโยชน์แล้ว 1,539 ราย รวม 2,175 แปลง ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพแล้ว 29 พื้นที่

นคราชสีมา

“ภูมิธรรม” เร่งพัฒนาที่ดิน คทช. “โคราช” สร้างอาชีพ-ยกระดับชีวิตเกษตรกร

บริษัท บูรพาทัศน์ (1999) จำกัด