นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์

ศ.ดร.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 17 มี.ค.66 ว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ระดับ 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งมาจากการเติบโตของตัวเลขผู้ป่วยที่เริ่มกลับมาสูงขึ้นกว่าช่วงก่อนสถานการณ์โควิด อีกทั้งจากการเปิดประเทศจะช่วยสนับสนุนให้ผู้ป่วยต่างชาติเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะชาวซาอุดีอาระเบีย รวมถึงรายได้จากกลุ่มผู้ประกันตน ที่ปัจจุบันบริษัทเป็นรายเดียวที่มีผู้ประกันตนเกิน 1 ล้านราย และการปรับราคาขึ้น ซึ่งจะช่วยให้รายได้เติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ นอกจากนี้ รายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากศูนย์ เวลเนส เซ็นเตอร์ ที่บริษัททยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 8 แห่ง และมีกระแสตอบรับดี เนื่องจากปัจจุบันคนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น สำหรับกระแสการตอบรับศูนย์ความงามในนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว คาดว่าจะมีรายได้เดือนละประมาณ 10 ล้านบาท หลังจากที่เปิดมาเพียง 9 วันสามารถทำรายได้แล้วเกือบ 4 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทมี 4 กลยุทธ์ในการผลักดันผลประกอบการให้เติบโต ประกอบด้วย 1.การขยายกิจการโรงพยาบาลแห่งใหม่, 2.การอัพเกรดโรงพยาบาลเดิมและเพิ่มศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง, 3.การเข้าทำสัญญากับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้บริการทางด้านการแพทย์ และ 4 การมุ่งมั่นการดำงานตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม อนึ่ง ผลประกอบการงวดปี 65 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 18,910 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 12.2 เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากรายได้จากการ รักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สอดรับกับการฟื้นตัวของสถานการณ์การแพร่ระบาด ขณะที่บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทในปี 65 เท่ากับ 3,038 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 55.6 เมื่อเทียบกับปีก่อนมีกำไร 6,846 ล้านบาท โดยสาเหตุที่ลดลงส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการปรับลดอัตราการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลจากภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 จากการจ่ายตามจริงเป็นแบบกำ หนดราคาพื้นฐาน การปรับแนวทางการรักษาพยาบาลและการยกเลิกมาตรการในการตรวจ และควบคุมโรคโควิด-19 รวมถึงการลดมูลค่าสินค้าคงเหลือที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนทางเลือกโมเดอร์น่า อย่างไรก็ตามหากพิจารณาเฉพาะรายได้ผู้ป่วยทั่วไปที่ไม่รวมรายได้ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคโควิด-19 จากโครงการภาครัฐ บริษัทจะมีรายได้ผู้ป่วยทั่วไปเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.4 จากการกลับเข้ามารับการรักษาพยาบาลภาคปกติเพิ่มสูงขึ้นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ