นางสาววริษา อนันตรัมพร

นางสาววริษา อนันตรัมพร ผู้จดการทั่วไป บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK เปิดเผยข้อมูลภาพรวมของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 24 ส.ค.2564 ว่าผลประกอบการครึ่งปีแรก 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 156 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบงกำไรทั้งปี 2563 อยู่ที่ 196 ล้านบาท พบว่ากำไรครึ่งแรกปีนี้สูงเกิน 50% ของทั้งปีก่อนไปแล้ว สำหรับธุรกิจครึ่งปีหลัง 2564 ในส่วนของธุรกิจโทรคมนาคม (Telecom) ปัจจุบันมีแบ็กล็อกอยู่ที่ 3,179 ล้านบาท เตรียมจะรับรู้ในครึ่งปีหลังนี้ประมาณ 904 ล้านบาท แบ่งเป็น งานการให้บริการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) จำนวน 39 ล้านบาท, งานให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม (Data service) จำนวน 618 ล้านบาท และงานติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคม (Installation) จำนวน 247 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าประมูลงานต่อเนื่องและคาดมีโครงการเตรียมประมูลประมาณ 5 โครงการ ส่วนธุรกิจวิศวกรรม (Engineering) ณ สิ้นไตรมาส 2/64 บริษัทมีโครงการในมือรวมทั้งสิ้น 8 โครงการ หรือคิดเป็นมูลค่างานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ราว 769 ล้านบาท โดยหลักจะเป็นโครงการในสุวรรณภูมิเฟส 2 เช่น โครงการ CC3-AOT และโครงการรถไฟไร้คนขับ CC4 (APM) ซึ่งบริษัทเป็นผู้จัดซื้อพร้อมติดตั้งงานระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติมีรถไฟทั้งหมด 6 ขบวน ปัจจุบันรถไฟทั้งหมดได้นำส่งมาถึงประเทศไทยครบแล้ว โดยอยู่ระหว่างทดสอบทุกอย่างให้เป็นไปตามมาตรฐานสูงสุด โดยโครงการนี้รอรับรู้รายได้ครึ่งปีหลังอีกประมาณ 385 ล้านบาท ขณะเดียวกันในไตรมาส 3/64 บริษัทได้เซ็นสัญญางานใหม่เพิ่มเติมอีกรวม 595 ล้านบาท ได้แก่ งาน Submarine Cable-Panyi Island มูลค่า 144 ล้านบาท, Submarine Cable-Chao Phraya River มูลค่า 85 ล้านบาท และ Substitution-3 Provinces (Consortium) มูลค่า 366 ล้านบาท ส่งผลทำให้ปัจจุบัน Backlog รวมอยู่ที่ 1,364 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลังนี้ราว 60% ส่วนที่เหลือจะรับรู้ฯในปีหน้า ขณะที่ธุรกิจจัดจำหน่าย (Distribution) ก็คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากจะมีการจัดงานมหกรรมลดราคาให้แก่ลูกค้า คาดว่าจะช่วยหนุนยอดขายให้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น “ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 มั่นใจเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบไตรมาส 2/2564 เนื่องจากไตรมาส 3/2564 เป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ (Distribution) สูงสุดทุกปี อีกทั้งงานธุรกิจโทรคมนาคม (Telecom) มี Backlog หนุน และธุรกิจวิศวกรรม (Engineering) เป็นไปตามแผนทุกอย่างดังนั้นมั่นใจว่าผลประกอบการไตรมาส 3/64 จะเติบโตโดดเด่นแน่นอน” นางสาววิษา กล่าว ดังนั้นมั่นใจว่าทั้งปี 64 บริษัทคงเป้ารายได้รวมเติบโตแตะ 6,000 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 5,200 ล้านบาท โดยจะมาจากทั้ง 3 ธุรกิจ ทั้งธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจวิศวกรรม และธุรกิจจัดจำหน่ายที่เติบโตต่อเนื่อง นอกจากนั้นในไตรมาส 3/64 บริษัทยังมีการบันทึกกำไรจากการขายหุ้น บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม (ITEL) ให้แก่ บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) จำนวน 50 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบันบริษัทคงเหลือถือหุ้น ITEL ในสัดส่วน 55.46% จากเดิม 60.31% ส่วนต้นทุนราคาทองแดงที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นบริษัทฯ ก็ได้มีการปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งในส่วนของต้นทุนของบริษัทจะล้อไปกับราคาทองแดงและอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งในด้านราคาสินค้าของบริษัทปกติมักจะมีการปรับราคาทุกๆ ช่วงต้นปีและกลางปี ส่วนแผนการประมูลงานปีนี้คาดงานวางระบบไฟฟ้าสายเคเบิลใต้น้ำเกาะสีชัง–เกาะเต่าจะประมูลโครงการสายเกาะสีชัง มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท และงานเกาะเต่า มูลค่าโครงการ 1700-1800 ล้านบาทในปีนี้ ส่วนโครงการวางระบบไฟฟ้าสายเคเบิลใต้น้ำ เกาะสมุย มูลค่าโครงการ 1,250 ล้านบาท ซึ่งบริษัทชนะประมูลราคาต่ำสุดคาดชัดเจนปีหน้า