นางสาวอาชินี ปัทมะสุคนธ์

นางสาวอาชินี ปัทมะสุคนธ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ภารกิจสำคัญหนึ่งของ ก.ล.ต. คือ การส่งเสริมความรู้ด้านการเงินการลงทุน มุ่งให้ประชาชนมีสุขภาพทางการเงินที่ดี พร้อมผสานพลังความร่วมมือกับผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุนไทย ดังนั้นจึงได้ริเริ่มโครงการ “ตลาดทุนไทย ร่วมใจส่งพลังความรู้ สู่ประชาชน” ตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งเป็นการดำเนินการภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาทักษะทางการเงิน พ.ศ. 2565-2570 ของกระทรวงการคลัง โดยจุดเด่นของโครงการนี้คือการให้ผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน เช่น ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล มาร่วมผนึกกำลังเป็นส่วนหนึ่งในการก่อร่างสร้างความรู้ความเข้าใจและทักษะด้านการเงินการลงทุน (Financial Literacy) ให้แก่ผู้ลงทุนและประชาชน ซึ่งในเฟส 1 ได้รับรู้ถึงพลังความร่วมมือของผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุนเข้าร่วมโครงการ 38 บริษัท และ ก.ล.ต. ได้ร่วมส่งต่อความรู้ด้านการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ที่ไม่ได้เป็นการเสนอขายผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดอบรม สัมมนา ลงพื้นที่ให้ความรู้แบบ on-site หรือผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ที่สามารถเข้าถึงประชาชนได้มากกว่า 72 ล้านครั้ง ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างแรงขับเคลื่อนที่จะช่วยเพิ่มพูนทักษะด้านการลงทุนให้เกิดขึ้นในสังคมไทยมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ลงทุนบริหารจัดการการเงินของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากความสำเร็จในเฟส 1 นำมาสู่การสานต่อโครงการในเฟส 2 ประจำปี 67 ที่ยังคงเจตนารมณ์เดิมในการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุนประเภทใด ขนาดใดก็ได้ สามารถเข้าร่วมโครงการ พร้อมยกระดับการเสริมสร้างพลังความรู้ให้เข้มแข็งมากขึ้น โดยกำหนดให้ผู้เข้าร่วมโครงการนำเสนอ “แผนการส่งเสริมความรู้ ด้านการเงินการลงทุน” ที่มีความชัดเจน สามารถวัดผลสำเร็จเป็นรูปธรรมได้ ซึ่งจากรายงานบางส่วนของผู้ประกอบธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการในเฟส 2 พบว่าในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ได้ส่งต่อความรู้ด้านการลงทุนในรูปแบบหลากหลาย เข้าถึงผู้ลงทุนและประชาชนรวมกันแล้วมากกว่า 100 ล้านครั้ง สะท้อนถึงพลังของผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุนที่ร่วมผลักดันให้ความรู้ด้านการลงทุนสามารถเผยแพร่ไปสู่ประชาชนวงกว้าง ทั้งนี้ก.ล.ต. ได้ยกระดับการเชิดชูเกียรติให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ร่วมโครงการและจัดทำแผนการส่งเสริมความรู้ฯ ครบถ้วน โดยได้มอบตราสัญลักษณ์พิเศษ “Investment Knowledge Provider” ให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจสามารถนำไปใช้ต่อยอดประชาสัมพันธ์ในกิจกรรมการให้ความรู้ รวมถึงมอบรางวัลประเภทต่าง ๆ ได้แก่ (1) รางวัล “ขวัญใจมหาชน” (Public Favorite Award) ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับรางวัลได้เสนอแผนงานที่น่าสนใจ อาทิ การเผยแพร่สื่อความรู้พื้นฐานการลงทุน การบริหารจัดการเงิน การระวังภัยกลโกง ในรูปแบบของคลิปวิดีโอและอินโฟกราฟิก การสร้าง community ออนไลน์เพื่อแบ่งปันข้อมูลผลิตภัณฑ์การลงทุน ซึ่งมีจำนวนผู้เข้าถึงความรู้ได้มากกว่า 10 ล้านรายต่อโครงการ (2) รางวัล “การสร้างองค์ความรู้อย่างยั่งยืน” (Sustainability Award) โดยผู้ประกอบธุรกิจได้จัดทำแผนการให้ความรู้ระยะยาวมากกว่า 1 ปีขึ้นไป อาทิ การลงพื้นที่จัดกิจกรรมอบรม สัมมนา Workshop Bootcamp กับสถาบันการศึกษาและองค์กรต่าง ๆ ให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ทั้งนักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ คนวัยทำงาน ผู้สูงอายุ ผู้บกพร่องทางการได้ยิน และประชาชนทั่วไป การจัดทำสื่อให้ความรู้เผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์เป็นประจำ การจัดทำคอร์ส e-Learning ด้านการเงินการลงทุนแบบไม่มีค่าใช้จ่าย การจัดกิจกรรมการแข่งขันด้านการลงทุน การสัมมนาให้ความรู้เพื่อการเกษียณ และ (3) รางวัล “ความคิดสร้างสรรค์ยอดเยี่ยม” (Creativity Awards) ที่ผู้ประกอบธุรกิจได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมาประกอบการให้ความรู้อย่างสร้างสรรค์ สื่อสารด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย อาทิ การสร้างวินัยการออมและการลงทุนเมื่อมีการใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน การจัดทำคลิปวิดีโอซีรีส์ให้ความรู้ที่เข้าใจง่ายเกี่ยวกับหุ้นกู้ การจัดทำรายการให้คำปรึกษาผู้ที่ประสบปัญหาจากการลงทุน การใช้ AI Chatbot ตอบคำถามกองทุนรวม การจัดทำระบบคำนวณเงินทุนเพื่อการเกษียณ การจัดทำเครื่องมือเปรียบเทียบกองทุนรวมที่เข้าใจง่าย ซึ่งโครงการในเฟส 2 ได้รับพลังความร่วมมือจากผู้ประกอบธุรกิจเข้าร่วมและได้รับรางวัลรวม 31 รางวัล โดย ก.ล.ต. ได้จัดพิธีมอบรางวัลในช่วงกิจกรรมส่งเสริมความรู้ผู้ลงทุนสากล World Investor Week 2024 เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 แม้ว่า ก.ล.ต. ดำเนินการให้ความรู้แก่ผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีการให้ความรู้ที่ยั่งยืนและตอบโจทย์ผู้ลงทุน ไม่สามารถทำได้โดยลำพัง โครงการที่ได้รับความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมตลาดทุนนี้ จึงเปรียบเสมือนการเพิ่มถนน ให้ความรู้ด้านการลงทุนเข้าถึงผู้ลงทุนและประชาชนได้มากและกว้างไกลยิ่งขึ้น อีกทั้งผู้ประกอบธุรกิจมีส่วนเป็น “Knowledge Provider” ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน และในปี 2568 ก.ล.ต. ยังคงมุ่งเน้นให้ความรู้แก่ผู้ลงทุนและประชาชน ในธีมการเตรียมความพร้อมเพื่อความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว (Financial well-being) ให้เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย ตั้งแต่กลุ่มนักศึกษา วัยเริ่มทำงาน วัยทำงาน รวมถึงวัยใกล้เกษียณและวัยเกษียณ โดยการประสานความร่วมมือกับผู้ประกอบธุรกิจในภาคตลาดทุนในการส่งต่อความรู้ เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกันในการเสริมความแข็งแกร่ง ด้วยความเชื่อมั่นว่า “ความรู้คือพลัง” เป็นการติดอาวุธสำคัญให้กับผู้ลงทุนและประชาชน และเป็นพลังขับเคลื่อนให้ตลาดทุนไทยเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะช่วยสร้าง Financial well-being ให้กับผู้ลงทุนและประชาชนต่อไป