นายปวิช เกศววงศ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2568 กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ วัดป่าสันติพุทธาราม จังหวัดราชบุรี เปิดตัว “ศูนย์การเรียนรู้ พื้นที่สีเขียวป่านิเวศ (Eco Forest) และอนุรักษ์พันธุกรรมพืช วัดป่าสันติพุทธาราม” เพื่อสืบสานพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.) ส่งเสริมการเรียนรู้ สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ โดยได้รับเกียรติจากนายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีรองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานพิธี พร้อมด้วยผู้บริหารจังหวัดราชบุรี เจ้าอาวาสวัดป่าสันติพุทธาราม เครือข่ายหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม ณ วัดป่าสันติพุทธาราม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ด้านนายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า “กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ร่วมการดำเนินงานขับเคลื่อน โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี หรือ อพ.สธ. ซึ่งการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ เป็นไปตามกรอบการดำเนินงานของโครงการ อพ.สธ. ได้แก่ การเรียนรู้ทรัพยากร การใช้ประโยชน์ทรัพยากร และการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร โดยวัดป่าสันติพุทธาราม เป็นห้องเรียนธรรมชาติที่มีพื้นที่สีเขียว มีความร่มรื่น เหมาะกับการปฏิบัติธรรม และเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ซึ่งกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ได้เล็งเห็นศักยภาพของวัดป่าสันติพุทธาราม จึงได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้เป็นศูนย์การเรียนรู้พื้นที่สีเขียวป่านิเวศ (Eco Forest) และอนุรักษ์พันธุกรรมพืช เพื่อสนองพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมถวายปัจจัยสนับสนุนการดำเนินงานศูนย์การเรียนรู้ จำนวน 20,000 บาท เพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญให้แก่ผู้ที่สนใจศึกษาธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดราชบุรี อีกทั้งช่วยขยายองค์ความรู้เกี่ยวกับพื้นที่สีเขียวป่านิเวศ (Eco Forest) รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ให้ประชาชนได้เห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของต้นไม้ ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันดูแลรักษาพื้นที่สีเขียว เพิ่มพื้นที่กักเก็บคาร์บอน ช่วยลดมลพิษและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ ตลอดจนเป็นต้นแบบในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้แก่พื้นที่อื่น ๆ นำไปขยายผลเพิ่มพื้นที่สีเขียวในพื้นที่ของตนเองต่อไป